ราชกรรมาธิการอัลอูลา เผยความคืบหน้าโครงการรถรางอัลอูลา พร้อมว่าจ้างอัลสตอมในการจัดหาระบบและรถราง

พุธ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๗:๐๒
โครงการรถรางระยะทางรวม 22.4 กม. เชื่อมต่อแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในเมืองอัลอูลา เมืองโอเอซิสแห่งประวัติศาสตร์ และใจกลางเมืองร่วมสมัยได้รับการออกแบบให้เป็นองค์ประกอบหลักของแผนแม่บท "การเดินทางข้ามกาลเวลา" (Journey Through Time หรือ JTT) สะท้อนการผสมผสานวัฒนธรรม มรดก และธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองอัลอูลาผู้ผลิตด้านการขนส่งข้ามชาติชั้นนำอย่างอัลสตอม ได้รับการว่าจ้างให้จัดหารถรางและระบบที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของอัลอูลาราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการรถรางเปิดประสบการณ์เมืองอัลอูลา (AlUla Experiential Tramway) ภายในงานประชุมของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative หรือ FII) ครั้งที่ 7 โดยเป็นโครงการที่ประกอบด้วยรถรางล้ำสมัยจำนวน 20 ขบวน ครอบคลุมระยะทางทั้งหมด 22.4 กม. สถานียุทธศาสตร์และป้ายจอดจำนวน 17 แห่ง นำเสนอความหรูหรา ประวัติศาสตร์ และความคล่องตัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร

โครงการรถรางอัลอูลาคาร์บอนต่ำ จะใช้โดยรถรางและระบบจากอัลสตอม (Alstom) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งที่ยั่งยืน โดยมีการแสดงแบบจำลองสามมิติภายในงาน FII ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ที่บูธ RCU พร้อมสัมผัสประสบการณ์ตรงของโครงการได้แล้ววันนี้

โครงการรถรางอัลอูลาได้แรงบันดาลใจจากทางรถไฟฮิญาซ (Hijaz) อันเก่าแก่ ผู้โดยสารจะได้ดื่มด่ำไปกับการเดินทางที่รวบรวมประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของเมืองอัลอูลาเข้าไว้ด้วยกัน ตัวโครงการเชื่อมต่อเขตประวัติศาสตร์หลักทั้งห้าของอัลอูลา มอบประสบการณ์เต็มอิ่มไม่ซ้ำใคร ตั้งแต่โอเอซิสไปจนถึงทะเลทราย ไปจนถึงเส้นทางแสวงบุญในประวัติศาสตร์

โครงการรถรางเปิดประสบการณ์เมืองอัลอูลา ถือเป็นบทพิสูจน์แห่งนวัตกรรมและความมุ่งมั่นของราชกรรมาธิการอัลอูลาด้านการขนส่งที่ยั่งยืน ส่งเสริมการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนอกเหนือจากการเดินทางด้วยจักรยาน ม้า และการเดินเท้า เน้นย้ำถึงทางเลือกการคมนาคมที่หลากหลายเพื่อขับเคลื่อนซาอุดีอาระเบียสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์แหล่งมรดกที่สำคัญ 

โครงการรถรางอัลอูลาถือเป็นส่วนสำคัญของแผนแม่บท "การเดินทางข้ามกาลเวลา" โดยมีกำหนดเปิดใช้งานในช่วงครึ่งหลังของปี 2570 ขณะที่ทีมนักพัฒนามีกำหนดเข้าร่วมงานด้านโครงสร้างพื้นฐานในปี 2567 ผู้มาเยือนและประชาชนผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่หรูหราในอัลอูลา เส้นทางพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมต่อสถานที่สำคัญ พื้นที่เมือง และโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทั้งหมดอย่างไร้ที่ติ

คุณโมฮัมเหม็ด อัลทีบ (Mohammed Altheeb) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพัฒนาและการก่อสร้างของราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า "โครงการรถรางเปิดประสบการณ์เมืองอัลอูลา ไม่ได้เป็นเพียงแค่รูปแบบการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์และสะพานเชื่อมสู่อนาคตของเรา ความพยายามนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นด้านการคมนาคมที่ยั่งยืนของเรา ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งล้ำค่าแห่งอัลอูลาจะยังคงเข้าถึงได้และได้รับการอนุรักษ์ไว้จากรุ่นสู่รุ่น"

คุณโมฮัมเหม็ด คาลิล (Mohammed Khalil) กรรมการผู้จัดการของอัลสตอม ซาอุดีอาระเบีย กล่าวเพิ่มเติมว่า "ความร่วมมือกับราชกรรมาธิการอัลอูลาครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของอัลสตอมในการสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนให้แก่ซาอุดีอาระเบีย เรามุ่งมั่นที่จะขยายศักยภาพการท่องเที่ยวของอัลอูลาด้วยโซลูชันการขนส่งที่ล้ำสมัยของเรา พร้อมรับประกันการเข้าถึงพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างราบรื่น ภารกิจของเป็นมากกว่าการคมนาคม เรากำลังสร้างสังคมที่เชื่อมโยงถึงกัน สังคมที่ทุกคนมีส่วนร่วมทางสังคม และสังคมที่ครอบคลุมทางเศรษฐกิจ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย"

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ

ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula

เกี่ยวกับราชกรรมาธิการอัลอูลา

ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของราชกรรมาธิการอัลอูลาคือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2256145/RCU.jpg



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย