การลงพื้นที่ครั้งนี้ สะท้อนแหล่งที่มาของวัตถุดิบ พริก สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในการส่งออก และ ยังเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ปลูกพริกที่เป็นต้นน้ำ และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับชุมชน สร้างความพร้อมในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แบบยั่งยืน
พญ. ศิริวรรณ ตั้งเจริญชัยชนะ กล่าวเสริมว่า ความท้าทายของ เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) เราไม่ได้มองแค่การเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกซอสพริกของคนไทยภายใต้แบรนด์ของตนเอง ซึ่งวางขายไปแล้วกว่า 80 ประเทศทั่วโลก แต่เรากำลังขยายธุรกิจและทำได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเจาะตลาดอเมริกาเหนือได้สำเร็จ แต่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม จึงมีความท้าทายมากกว่าแค่เติบโตทาง "ธุรกิจ" เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องเป็นผู้นำสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม และรากฐานของเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกของเราเช่นกัน
โครงการระบบน้ำหยดใช้ในการปลูกพริกปลอดสาร จึงนับเป็นหนึ่งในโครงการรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ประจำปี 2566 ของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่จาก 3,500 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 4,000-5,500 กิโลกรัมต่อไร่ เพราะพริกเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญในการผลิตสินค้าของบริษัท ซึ่งในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ หนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือ ปริมาณน้ำที่ไม่พอใช้ จึงหาแหล่งผลิตที่มีประสิทธิภาพ ที่จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย, อำเภอแม่จัน, อำเภอเชียงแสน (พื้นที่ 90 ไร่) เป็นพื้นที่ตอบโจทย์ เพราะอยู่ใกล้กับแม่น้ำโขง แต่เกษตรกรยังไม่มีระบบน้ำหยดมาใช้เพราะด้วยเงินที่ใช้ในการลงทุนต่อไร่มีต้นทุน 3,800 บาทต่อไร่ เงินที่สนับสนุนครั้งนี้ จึงถือเป็นโครงการนำร่องที่บริษัทได้จัดทำ และจะเดินหน้าสานต่อกิจกรรมดีๆ เพื่อเกษตรกรต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) ยังได้ร่วมเลี้ยงอาหารกลางวันและมอบทุนการศึกษาให้กับลูกหลานเกษตรกรในโครงการระบบน้ำหยดอีกด้วย จำนวน 60 ทุน เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกรมีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงต่อไป
ที่มา: ไออาร์ พลัส