คุณวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ NAM เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO NAM จำนวนไม่เกิน 181 ล้านหุ้น นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่เป็นอย่างดี ถือเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพและพื้นฐานทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง โดยล่าสุดภายหลังปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 พบว่ากลุ่มทุนรายใหญ่ระดับประเทศเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ บริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 3 จำนวน 105,000,000 หุ้น, บริษัท อินโน สเปราท์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 5 จำนวน 34,000,000 หุ้น, บริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 6 จำนวน 30,000,000 หุ้น, บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 7 จำนวน 10,300,000 หุ้น และ เสี่ยยักษ์ คุณวิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนวีไอ ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 9 จำนวน 7,000,000 หุ้น
สำหรับการเข้ามาถือหุ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Strategic Partner) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและต่อยอดสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่มีการถือหุ้น 59.14% บริษัท อินโน สเปราท์ โฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด มีการ Lock up หุ้น 100% เป็นเวลา 180 วัน และบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม มีการ Lock up หุ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่หุ้นเข้าเทรด เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าหุ้นของ NAM จะมีเสถียรภาพจากการเติบโต ที่สะท้อนพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และพร้อมเดินหน้าขยายศักยภาพด้านการผลิตสินค้าทางการแพทย์ที่ทันสมัยและครอบคลุมทุกความต้องการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ NAM ก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์กลุ่มงานปราศจากเชื้อระดับแนวหน้าของไทย ต่อยอดสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยสู่ระดับโลกในอนาคต
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย