โดยบริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและในธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่กำลังดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"ปัจจุบันบริษัทฯ มุ่งหน้าดำเนินธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้านอกประเทศ โดยมีแผนโครงการสำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ 1. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ จังหวัดบิลิรัน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการลงนามเซ็นสัญญากับทีมผู้ก่อสร้าง คาดว่าจะพร้อมเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปีนี้ และพร้อม COD ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 2. โรงไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) ณ จังหวัดซากะ (Saga) ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 100 เมกะวัตต์ โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 เฟส ขนาด 75 และ 25 เมกะวัตต์ตามลำดับ คาดว่าโครงการนี้จะเริ่ม COD ได้ภายในปี 68 ด้านกลุ่มธุรกิจสินเชื่อที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ที่มีเสถียรภาพให้แก่บริษัทฯ เชื่อว่าธุรกิจนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัทฯ และนักลงทุนในอนาคตได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง" นายศุภทัต จินดาวนิช กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ META ได้รับความสนใจจากนักลงทุน (Investor) หลายรายที่มองเห็นและให้ความสนใจต่อศักยภาพและโอกาสการเติบโตด้านการลงทุนกับบริษัทฯ แสดงความจำนงต้องการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทฯ ซึ่งจะเข้ามาเป็นกำลังเสริมด้านเงินทุนและขยายโอกาสให้บริษัทฯ ได้ก้าวเข้ารับงานในประเภทที่มีความเชี่ยวชาญได้มากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะนำเงินเพิ่มทุนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนจากนักลงทุนทุกท่านอย่างต่อเนื่อง และพัฒนากลุ่มธุรกิจของ META อย่างเต็มศักยภาพ
ที่มา: บางกอก ออทัม