นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL เปิดเผยว่า ช่วงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 171.87 ล้านหุ้น นับว่าประสบความสำเร็จ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีในการเข้าลงทุนจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ซึ่งแสดงความสนใจจองซื้อเป็นจำนวนมากสะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสามารถในการสร้างผลการดำเนินงานที่มั่นคงภายในระยะเวลาอันสั้น เนื่องด้วยศักยภาพของธุรกิจในการให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนแบบครบวงจร เชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและอย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะเศรษฐกิจและภาวะการลงทุนที่มีความผันผวน
ทั้งนี้ ภายหลังปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ปรากฏรายชื่อ นักลงทุนสายวีไอรายใหญ่เข้าลงทุนซื้อหุ้น IPO ของ ETL เข้าพอร์ต ได้แก่ 'หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี' เข้ามาถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 7 จำนวน 5,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.81%, 'คุณสุระ คณิตทวีกุล' เข้ามาถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 8 จำนวน 4,113,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.66% และ 'เสี่ยป๋อง คุณวัชระ แก้วสว่าง' เข้ามาถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 10 จำนวน 3,475,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.56% โดยนักลงทุนมีมุมมองบวกต่อหุ้น ETL เพราะนับเป็นตัวเลือกใหม่ของการลงทุนในหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ (Cross-Border Transportation Carrier) ที่ครบวงจรและมีศักยภาพการเติบโตสูง เชื่อว่า ETL จะกลายเป็นหุ้น Growth Stock ให้กับนักลงทุน
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นของ ETL ภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่มีการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 72.28% แบ่งเป็น บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 36.86%, Noya Holding Company Limited ถือหุ้น 15.94%, นายลี ยิค เชร์ ถือหุ้น 12.99%, นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย ถือหุ้น 6.49% และ นายชูเดช คงสุนทร ถือหุ้น 0.00001% ผู้ถือหุ้นเดิมตกลงที่จะเข้าทำหนังสือข้อตกลงกับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยตกลงที่จะจำกัดสิทธิของตนว่าจะไม่จำนำ จำนอง ก่อภาระผูกพัน ขายหรือจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นที่ไม่ติด Silent Period ให้แก่บุคคลอื่นใดในช่วงระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นของบริษัทฯ เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ผู้ถือหุ้นเดิมสามารถขายหุ้นดังกล่าวได้ในจำนวนร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ไม่ติด Silent Period และสามารถขายส่วนที่เหลือทั้งหมดได้เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนว่าการเข้าลงทุนถือหุ้น ETL จะให้ผลตอบแทนที่ดี ด้วยศักยภาพการเติบโตโดดเด่นจากแผนธุรกิจเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการขนส่งสินค้า ที่ขยายไปยังระบบโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) ส่งเสริมขีดความสามารถการให้บริการเพื่อผลักดันให้ ETL ก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนในอนาคตได้อย่างแน่นอน
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย