นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GEL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัทฯ โดยการโอนกิจการบางส่วน (Partial Business Transfer: PBT) และ/หรือการซื้อขายกิจการบางส่วน และสัญญาที่เกี่ยวข้องกับบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 880 ล้านบาท ให้กับบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด (อินโน พรีคาสท์) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวน 1,019,999 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51
ทั้งนี้ อินโน พรีคาสท์ จะชำระค่าตอบแทนสำหรับการโอนกิจการบางส่วน และ/หรือ การซื้อขายกิจการบางส่วน ดังนี้ 1. การออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 1,070,991 หุ้น ในราคาหุ้นละ 570.50 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 611.00 ล้านบาท 2. การชำระเงินสดให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวน 124 ล้านบาท และ 3.การซื้อทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพรีคาสท์ ซึ่งประกอบด้วยที่ดินและอาคารโรงงานจากบริษัทฯ (ภายหลังจากที่ทรัพย์สินได้รับการปลดจากการเป็นหลักประกัน) ในมูลค่าทั้งสิ้น 145 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินที่ชำระจะหักจากค่าเช่าที่ อินโน พรีคาสท์ เช่าทรัพย์สินจากบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี ก่อนที่จะมีการปลดทรัพย์สินจากการเป็นหลักประกัน ซึ่งคิดเป็นค่าเช่า 11.6 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการของ GEL ในครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ บริษัทฯ จะถือหุ้นในอินโน พรีคาสท์ เป็นจำนวน 2,090,990 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.4 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ อินโน พรีคาสท์ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนับจากวันที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้ารายการ และจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและรายได้ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าภายใน 2-3 ปี จะผลักดันผลงานให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งพรีคาสท์รายใหญ่สุดของไทย
ปัจจุบัน GEL ยังมุ่งหน้าและก้าวสู่บริษัทผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างชั้นนำ ซึ่งหลังจากการปรับโครงสร้างกิจการในครั้งนี้ และการมี อินโน พรีคาสท์ เป็นบริษัทย่อยของ GEL จะทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้สูงขึ้นเกือบสองเท่าตัว จากการรวมงบการเงินกับบริษัท อินโน พรีคาสท์ ที่จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างของฐานลูกค้าเดิม รวมถึงจากทางพฤกษา และลูกค้ารายอื่นในอนาคต ช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย (Economy of Scale) ในระยะยาว รวมถึงบริษัทฯ มีกลยุทธ์การสร้างแพลตฟอร์มในการนำเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาปรับใช้ ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนที่ดีขึ้นส่งผลให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมต่อลูกค้าของบริษัทฯ
"สำหรับเทคโนโลยีสีเขียวจากอินโน พรีคาสท์ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่สนใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานของ GEL จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการผลิตที่มากขึ้น และการสร้างรายได้ที่มั่นคง" นายธิติพงศ์ กล่าวในที่สุด
ที่มา: เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง