แอสตร้าเซนเนก้า ร่วมกับ แพลน อินเตอร์เนชั่นแนล จับมือ 4 องค์กรชั้นนำระดับโลก สานต่อกิจกรรม Girls Take Over เนื่องในวันเด็กผู้หญิงสากล

อังคาร ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๑:๔๒
แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ร่วมกับ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล สานต่อกิจกรรม #GirlsTakeOver ภายใต้โครงการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีในเด็กและเยาวชน หรือ Young Health Programme (YHP) ประเทศไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กหญิงสากล (International Day of the Girl Child) เพื่อส่งเสริมสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศของเด็กผู้หญิง พร้อมจับมือกับองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ และ กรุงเทพมหานคร ในการเปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงได้ร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปและแสดงศักยภาพในการทดลองสวมบทบาทการทำงานในองค์กร ผ่านกรณีศึกษาต่างๆ พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสังคมในแง่มุมที่หลากหลาย ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ทุกวันที่ 11 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กหญิงสากล เพื่อตระหนักถึงสิทธิของเด็กผู้หญิงและความท้าทายในประเด็นต่างๆ ที่เด็กผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการถูกเลือกปฏิบัติ การใช้ความรุนแรง การเสียชีวิตหรือเกิดความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ความเสี่ยงต่อความพิการ การคลอดบุตรก่อนกำหนด การถูกบังคับให้แต่งงานก่อนวัยอันควร มากไปกว่านั้น เด็กหญิงและสตรีมักจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบด้านภาระทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยผู้หญิงมักมีแนวโน้มที่จะต้องออกจากงานประจำหรือโรงเรียนเพื่อมาดูแลบุคคลในครอบครัว เป็นต้น ซึ่งตัวอย่างที่กล่าวไป แสดงให้เห็นถึงผลกระทบด้านสาธารณสุขและการศึกษาที่เด็กหญิงและสตรีไม่ได้รับความเสมอภาคเท่ากับเพศชาย

ดังนั้น ในปีนี้ องค์กรชั้นนำระดับโลก นำโดย บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ และกรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกันสานต่อกิจกรรมภายใต้โครงการ Young Health Programme เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคของสิทธิเด็กผู้หญิง พร้อมกับความตั้งใจในการสร้างสภาวะการเป็นผู้นำ ผ่านกิจกรรม #GirlsTakeOver ภายใต้ธีม "บทบาทของผู้นำหญิงภาครัฐผู้หนุนเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ" โดยเปิดเวทีให้เด็กและเยาวชนหญิงอายุ 16 - 22 ปี จำนวน 8 คน จาก 5 โรงเรียนและ 3 มหาวิทยาลัย สวมบทบาทสมมติในสถานการณ์จำลองของแต่ละองค์กร เพื่อร่วมกันระดมความคิดเป็นกลุ่มและแสดงคุณสมบัติความเป็นผู้นำตามบทบาทหน้าที่ พร้อมสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันประสบการณ์ และส่งเสริมการทำงานเป็นทีมที่ดี ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กผู้หญิงให้ต่อยอดไปสู่การเป็นผู้นำที่มีคุณภาพและสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศในสังคมต่อไป

นายโรมัน รามอส ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "แอสตร้าเซนเนก้า มีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการผลักดันนโยบายด้านความหลากหลายและเท่าเทียม รวมไปถึงการส่งเสริมการยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วม (Inclusion & Diversity) ของทุกคนในสังคม รวมถึงเยาวชน ซึ่งกิจกรรม #GirlsTakeOver ในครั้งนี้ มีส่วนช่วยในการส่งเสริมและผลักดันความเท่าเทียมทางเพศให้แก่เด็กผู้หญิง ผ่านการสร้างสถานการณ์และจำลองสภาพแวดล้อมในบทบาทการเป็นผู้นำ โดยในครั้งนี้ เราได้ผนึกกำลังกับองค์กรชั้นนำที่มีผู้บริหารมากความสามารถจากหลากหลายแวดวง เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้และทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ในโลกการทำงานที่แตกต่างกันจากผู้มีประสบการณ์จริง ซึ่งเราเชื่อว่ากิจกรรมในวันนี้จะมอบประสบการณ์ที่ดี พร้อมก่อให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจแก่เด็กและเยาวชนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของสังคมในอนาคต"

ดร. รังสิมา ไอราวัณวัฒน์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า "องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล เชื่อมั่นในพลังของเด็กหญิงและเยาวชนหญิง สิ่งสำคัญ คือ การเสริมพลังและพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำ รวมถึงเปิดเวทีให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็น ให้พวกเขาได้อยู่แถวหน้าและร่วมตัดสินใจในเรื่องที่มีผลกระทบกับเขา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นผู้นำในทุกระดับในอนาคต"

นางสาวสุชนา สินธวถาวร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า "depa มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญระดับสากลนี้ โดยเรามีภารกิจในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ และในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้บริหารหญิง จึงขอใช้โอกาสนี้ในการถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ ให้แก่เยาวชนหญิง ได้จำลองบทบาทการเป็นผู้บริหาร ผ่านกิจกรรม #GirlsTakeOver ในครั้งนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและความพร้อมให้แก่เยาวชนหญิงที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคตได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญดังกล่าวจะสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการสร้างความตระหนักในวงกว้างและส่งผ่านแรงบันดาลใจจากรุ่นสู่รุ่น จากผู้น้อยไปสู่ผู้นำ จากผู้ทำตามไปสู่ผู้ริเริ่มด้วยตนเอง เพื่อนำไปสู่การเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมทั้งระดับประเทศและระดับสากลต่อไป"

นางแอนนา ฮัมมาร์เกรน เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน กล่าวว่า "การส่งเสริมสิทธิเด็กและสตรีถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลสวีเดนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การเปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงได้ทดลองสวมบทบาทการเป็นผู้นำและแสดงตัวตนให้ผู้อื่นได้รับรู้ นับเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจะนำไปสู่โลกที่เท่าเทียม รวมถึงยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมโดยรวม ทั้งนี้ ทางสถานทูตรู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Girls Take Over ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองและสามารถกำหนดแนวทางในชีวิตและในระดับสังคมต่อไปในอนาคต"

นายมาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ กล่าวว่า "สหราชอาณาจักรทุ่มเทที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับสตรีและเด็กหญิง รวมทั้งสร้างการเปลี่ยนถ่ายอำนาจสู่พวกเธอที่จะเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงและผู้นำในอนาคต กิจกรรม Girls Take Over เป็นโอกาสอันดีที่ทางสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยได้ร่วมมือกับบริษัทของสหราชอาณาจักร อย่าง แอสตร้าเซนเนก้าเพื่อสื่อสารกับอนาคตผู้นำสตรีของไทย รวมถึงทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ร่วมกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติของไทยจัดงานเวิร์คชอปทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักร-ไทยในด้านการศึกษาจีโนมและการพัฒนาวัคซีนอีกด้วย เรายินดีที่ได้ร่วมงานส่งเสริมประเด็นความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และการเสริมสร้างบทบาทของสตรี อันเป็นสองสิ่งที่ สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญไปทั่วโลก"

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "ในฐานะกรุงเทพมหานคร เราเห็นความตั้งใจของ
เยาวชนที่เลือกมาศึกษางานจากหน่วยงานระดับท้องถิ่น เนื่องจากการจัดกิจกรรมประเภทนี้เข้าถึงหน่วยงานระดับท้องถิ่นน้อยมาก ซึ่งการมอบโอกาสให้เยาวชนกลุ่มนี้เข้ามาเรียนรู้งานจะทำให้พวกเขาได้รับความรู้และความเข้าใจในงานของท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น และยังถือเป็นโอกาสให้เราได้เป็นตัวแทนของหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ นอกจากนี้กิจกรรม #GirlsTakeover2023 ยังแสดงให้เห็นแล้วว่าผู้หญิงสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้โดยไร้ข้อจำกัด เช่น เป็นนักผจญเพลิง หรือเป็นแพทย์"

กิจกรรม #GirlsTakeOver เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #GirlsBelongHere แคมเปญระดับสากล ภายใต้โครงการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีในเด็กและเยาวชน หรือ Young Health Programme (YHP) ซึ่งดำเนินกิจกรรมพร้อมกันในหลายประเทศทั่วโลกในทุกปี แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พร้อมพันธมิตร ร่วมกันเดินหน้ารณรงค์และส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศ ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมทางสังคมและขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่กำลังขวางกั้นศักยภาพของเหล่าเด็กหญิงในสังคมต่อไป

เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ #GirlsTakeOver โดยแอสตร้าเซนเนก้า ได้ที่
https://www.younghealthprogrammeyhp.com/young-leaders/girls-belong-here.html

ที่มา: เวเบอร์ แชนด์วิค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ