นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "WHAUP" เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมาทาง WHAUP และบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (AAT) ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ และประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ของฟอร์ด และมาสด้า ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ได้ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar )ขนาด 8 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำของพื้นที่บ่อน้ำดิบ ภายในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ของบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA Group) โดยคาดจะใช้เวลาในการติดตั้ง และสามารถผลิตไฟฟ้า เชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในเดือนกันยายน 2567
"โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ ของบ่อเก็บน้ำดิบ ภายในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ของ WHA Group โดยใช้พื้นที่ติดตั้ง 60,000 ตารางเมตร และมีกำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 8 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 270 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถช่วยให้บริษัทลูกค้า ลดต้นทุนด้านพลังงานและได้ใช้พลังงานสะอาดได้ถึง 9.6 ล้านหน่วยต่อปี โดยสัญญาดังกล่าวสามารถยืดหยุ่นตามความต้องการใช้ของลูกค้าที่มีอายุสัญญาตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี โดย AAT เซ็นสัญญากับ WHAUP ในรูปแบบ 5 ปี + 5 ปี นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 5,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจกและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาว ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม"
ทั้งนี้ ภายหลังจากการเซ็นสัญญากับ AAT ในครั้งนี้ ส่งผลให้ WHAUP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 181 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 106 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมจากโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) รวมทั้งสิ้น 300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 847 เมกะวัตต์
ด้าน นายเคนอิจิโร ซารุวาตาริ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (AAT) กล่าวว่า การร่วมมือกับ บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ในครั้งนี้ ถือเป็นร่วมมือในระยะที่ 3 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานของAAT เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมาที่ได้มีการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar for Rooftop) ของเอเอที กว่า 45,000 ตารางเมตร ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ และได้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ เซลล์บนหลังคาเพิ่มเติมอีก 1 เมกะวัตต์ หากโครงการโซลาลอยน้ำนี้แล้วเสร็จจะ ส่งผลให้ทาง AAT มีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระยะ 3 ปีนี้ที่ 14 เมกะวัตต์ ซึ่งตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำนวัตกรรมโซลาร์เซลล์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งการซื้อขายไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ (Floating Solar) ในครั้งนี้ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการลดใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ AAT ได้ยึดมั่นปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิตจากการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ตลอดอายุสัญญา 10 ปี ส่งผลให้ภายในระยะ เวลา 10 ปี AAT จะสามารถใช้พลังงานสะอาดสูงถึง 96 ล้านหน่วย ขณะเดียวกันยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) ที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 54,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจก ซึ่งทาง AAT มีนโยบายการผลิตพลังงานใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็น RE100 (Renewable energy 100%) ในปี 2035
ทั้งนี้ AAT มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ WHAUP เนื่องจาก WHAUP เป็นผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ดำเนินการด้านวิศวกรรมติดตั้ง และก่อสร้าง พร้อมทั้งยังดูแลในด้านการ ขอใบอนุญาต และยังมีการบำรุงรักษาหลังการติดตั้งได้อย่างครบวงจร กอปรกับทีมบุคลากรมีความเป็น มืออาชีพในการให้บริการและการดูแลลูกค้า รวมถึงมีความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ AAT มั่นใจว่าการมีพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง WHAUP จะช่วยส่งเสริมสนับสนุน และยกระดับขีดความสามารถให้กับบริษัทฯ มากยิ่งขึ้นในอนาคต
การติดตั้งระบบโซลาร์ลอยน้ำในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเราในการนำนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมมาใช้เพื่อช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถเพิ่มอัตราการผลิตพลังงานสะอาดได้มากขึ้น และจะเดินหน้าผลิตรถยนต์คุณภาพด้วยการใช้พลังงานสะอาดอย่างไม่หยุดยั้ง" เคนอิจิโร ซารุวาตาริ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์