"Mother Chef" อาหารทะเลเพื่อสุขภาพ คว้ารางวัลสุดยอด GSB Change Maker 2023 โครงการภายใต้ความร่วมมือ ออมสิน-CIBA DPU เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

พฤหัส ๐๙ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๗:๑๒
"Mother Chef" อาหารทะเลเพื่อสุขภาพ คว้ารางวัลสุดยอด GSB Change Maker 2023 โครงการภายใต้ความร่วมมือ ออมสิน-CIBA DPU เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

ธนาคารออมสิน ร่วมกับ วิทยาลัยนวัตกรรมบริหารธุรกิจและการบัญชี  (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(DPU) จัดกิจกรรมการประกวดสุดยอด GSB Change Maker 2023 ภายใต้โครงการอบรมให้ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ GSB Step & Boost up Program 2023 ในคอนเซ็ปต์ "Sustainable Growth ให้ทุกธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมในการสร้างองค์ความรู้พื้นฐานทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย SME  และ SME Startups รวมถึงการต่อยอดธุรกิจและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการนำวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดมูลค่า พร้อมกับสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในชุมชน โดยมีคุณบุญรักษ์ อุดมอิทธิพงศ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มทรัพยากรบุคคล เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และTops ท้องถิ่น ร่วมงาน ณ หอประชุมบุรฉัตร ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่

สำหรับสุดยอด GSB CHANGE MAKER 2023 ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ บริษัท เพิ่มทรัพย์บุญทวี จำกัด รองชนะเลิศอันดับ 1 บริษัท กลิสเท็น ดีไซน์ จำกัด รองชนะเลิศอันดับ 2 บริษัท ฮัก ณ เชียงราย จำกัด จากผู้ประกอบการในรอบชิงชนะเลิศทั้งหมด จำนวน  10 ราย

นางบุญรักษ์ อุดมอิทธิพงศ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มทรัพยากรบุคคล  กล่าวในฐานะเป็นประธานในพิธีว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ หรือ GSB Step & Boost up Program 2023 เป็นโครงการที่อยู่ในทิศทางการดำเนินงานของธนาคารออมสิน ผ่านแคมเปญ "ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อสังคม" โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ อาทิ ผู้ประกอบการชุมชน SMEs และ SMEs Start Up มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการได้ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ นำไปพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการขยายตลาดในช่องทางต่างๆ ทั้งนี้จากความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตรในการลงพื้นที่ให้ความรู้ผู้ประกอบการและช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพมากขึ้น โดยเห็นได้จากผู้ประกอบการที่ผ่านเข้ารอบ Pitching แผนธุรกิจทั้ง 10 ทีม ได้ผ่านด่านคัดเลือกจนเป็นสุดยอดทีม GSB Change Maker 2023

"ธนาคารออมสิน ในฐานะธนาคารเพื่อสังคม พร้อมสนับสนุนโครงการดีๆในลักษณะนี้ เพื่อการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพ จะเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงหวังว่าผู้ประกอบการจะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการและนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตมากขึ้นอย่างยั่งยืน" รอง ผอ.ธนาคารออมสิน กล่าว

นายสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs Start up กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ ในฐานะคณะกรรมการผู้ตัดสิน กล่าวว่า ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นทีมที่ตอบโจทย์สังคมได้ครบทั้ง 5 มิติ คือ 1.มิติทางด้านเศรษฐกิจ 2.มิติทางด้านสังคม 3.มิติทางด้านชุมชน 4.มิติทางด้านสิ่งแวดล้อม และ5.มิติทางด้านคุณภาพชีวิต เนื่องจากทีมดังกล่าวใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนในท้องถิ่นมารังสรรค์ให้มีมูลค่า รวมถึงการดึงชุมชนให้มีส่วนร่วม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวโฮมสเตย์ในพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นที่ชัดเจน นอกจากนี้ผู้ประกอบการได้ผลิตสินค้าจากวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น จึงเรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาสินค้าแบบชุมชนองค์รวม (Holistic Area Based) หรือการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม เมื่อทุกคนมีส่วนร่วมรายได้จะกลับไปอยู่ที่ชุมชนและสังคม

"หลังจากปิดโครงการธนาคารออมสินมีคลินิกดูแลให้คำปรึกษา ให้ความรู้ทางด้านการเงิน รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาสินค้า นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการหาตลาดออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งนี้ธนาคารยังมีแหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการ สำหรับแคมเปญของโครงการในปีถัดไปจะเน้นพัฒนา Startup ให้เติบโตเนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้ ดังนั้นหากผู้ประกอบการท่านใดสนใจเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการหรืออยากเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) หรือสอบถามที่ Call Center 1115" นายสมชาย กล่าว

ดร. รชฏ ขำบุญ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมบริหารธุรกิจและการบัญชี  (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)  กล่าวว่า มหาวิทยาลัยร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ โดยเน้นให้องค์ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ และการตลาด แก่ผู้ประกอบการ เพื่อสร้างแบรนด์ให้สามารถขายได้ หลังจากเข้าร่วมโครงการฯผู้ประกอบการมีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ทุกทีมเริ่มสร้าง Story ให้กับธุรกิจของตนเอง จนส่งผลให้มียอดขายทั้งในไทยและต่างประเทศ สำหรับทีมที่ชนะเลิศเป็นทีมที่ชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างชัดเจน ที่น่าสนใจคือการ Pitching บนเวที สามารถเล่าได้ว่าทำอะไรกับชุมชน และชุมชนมีส่วนร่วมอย่างไร ซึ่งตรงกับโจทย์ของธนาคารออมสิน นอกจากนี้ผู้ชนะเลิศเป็นผู้ขับเคลื่อนชุมชนด้วยการหา Partner ในท้องถิ่น จึงมีความโดดเด่นในทักษะความเป็นผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญของการทำธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Scale Up ที่โตไว สิ่งที่คณะกรรมการอยากเห็น คือ การเติบโตไปด้วยกันระหว่างผู้ประกอบการและชุมชนจะทำให้เกิดความยั่งยืน ดังนั้นจึงอยากให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯทุกคนกลับมาทบทวนในเรื่องนี้  สุดท้ายนี้ในส่วนของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯในปีถัดไป หากอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจต้องมองมิติให้ครบทุกด้านและเน้นสร้างความยั่งยืนให้มากขึ้น

 นางสาวประภัสสร รังสิโรจน์ บริษัท เพิ่มทรัพย์บุญทวี จำกัด ทีมผู้ชนะเลิศ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการทำ Product แบรนด์ Mother chef มาจากภูมิจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝั่งตะวันออกเป็นทะเล ฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่ทำการเกษตร เมื่อเกิดวิกฤตสับปะรดล้นตลาด เนื่องจากราคาตกต่ำและเรือออกหาปลาไม่ได้ช่วงโควิด จึงทำให้เกิดไอเดียนำอาหารทะเลและสับปะรดมาแปรรูปเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน ส่วนจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เป็นอาหารทะเลเพื่อสุขภาพมีทั้งเมนูพร้อมทานและพร้อมปรุง และเป็นเจ้าแรกที่ทำเมนูใหม่ ยกตัวอย่างเช่น น้ำต้มส้มสับปะรดหรือน้ำพริกปลาทูสับปะรด เป็นนวัตกรรมอาหารที่แปลกใหม่ เราพยายามเอาวิถีชาวบ้านผสมผสานนวัตกรรมต่างๆ มาสร้างให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและเกิดความยั่งยืน อย่างไรก็ตามอยากขอบคุณธนาคารออมสินที่สร้างโอกาสให้ SMEs ขนาดเล็กมีตัวตนและเดินต่อไปข้างหน้าได้ จึงอยากให้มีโครงการนี้ต่อไปเพื่อผู้ประกอบการจะได้มีโอกาสต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับรางวัลที่ได้รับมาจากความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ส่วนเงินรางวัลจะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ชุมชน คือ หมี่ทุเรียนป่าละอู และน้ำพริกแกงเขียวหวานก้อน

นางสาวจุฑามาศ บุญพงษ์ บริษัท กลิสเท็น ดีไซด์ จำกัด  ตัวแทนทีมรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กล่าวว่า ไอเดียการทำผลิตภัณฑ์จาก Automotive Waste หรือ ขยะยานยนต์ มาจากการทำโปรเจคก่อนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากการศึกษาพบว่าปัญหาของขยะชนิดนี้ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ จึงลองเอามาทำเป็นงานออกแบบเป็นเชิงเทกซ์ไทล์ เพื่อต่อยอดให้วัสดุดังกล่าวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามรู้สึกเกินคาดมากที่ได้รับรางวัลจากธนาคารออมสิน เพราะเข้าร่วมโครงการฯเป็นปีแรก ส่วนเงินรางวัลที่ได้จะแบ่งเป็น 50-30-20 โดยส่วนแรกจะนำไป Develop ตัวของ Material รวมถึงเทคนิคของงานช่างฝีมือ ให้มีความซับซ้อนขึ้น ผลิตงานได้เร็วขึ้น อีก 30% จะทำเรื่อง Production เช่น ทำคลิปวีดีโอ ถ่ายแบบ และอยากลองเปิดหน้าร้านจริงจังเพิ่มส่วน 20% สุดท้าย จะเก็บเป็นทุนสำรองไว้สำหรับใช้ในอนาคต สุดท้ายนี้อยากขอบคุณโครงการนี้ที่ให้โอกาสเข้ามาร่วมโครงการ รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้พบปะผู้ประกอบการที่หลากหลาย ได้เรียนรู้ทั้งในกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย นอกจากนี้ยังได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้น ถ้ามีโอกาสอยากเข้าร่วมอีกครั้ง

 

ที่มา: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ