ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยเอเชีย 2567 โดยคิวเอส (QS World University Rankings: Asia 2024) คือการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยพิจารณาจากการเป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการและในหมู่ผู้จ้างงาน ความสามารถในการวิจัย ทรัพยากรในการเรียนการสอน และความเป็นสากล โดยปีนี้เป็นการจัดอันดับครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีมหาวิทยาลัย 857 แห่งจาก 25 ประเทศและดินแดนต่าง ๆ รวมถึงมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ 149 แห่งที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อการจัดอันดับมาก่อน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยปักกิ่งรักษาตำแหน่งมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นปีที่สองติดต่อกัน ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยฮ่องกงเป็นอันดับที่สอง และมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เป็นอันดับที่สาม อินเดียเป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยติดอันดับมากที่สุดถึง 148 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีที่แล้วถึง 30 แห่ง ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่มีมหาวิทยาลัยติดอันดับ 133 แห่ง และญี่ปุ่น 96 แห่ง นอกจากนี้แล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยจากเมียนมา, กัมพูชา และเนปาล รวมอยู่ในการจัดอันดับเป็นครั้งแรกอีกด้วย
มหาวิทยาลัย 20 อันดับแรกของเอเชีย25672566ประเทศ11มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University)จีน24มหาวิทยาลัยฮ่องกง (The University of Hong Kong)ฮ่องกง32มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore)สิงคโปร์=45มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (Nanyang Technological University)สิงคโปร์=43มหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua University)จีน66=มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University)จีน76=มหาวิทยาลัยฟูตัน (Fudan University)จีน812=มหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University)เกาหลีใต้915มหาวิทยาลัยเกาหลี (Korea University)เกาหลีใต้1012=มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (Chinese University of Hong Kong)ฮ่องกง=1110มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (Shanghai Jiao Tong University)จีน=119มหาวิทยาลัยมาลายา (Universiti Malaya)มาเลเซีย138สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (KAIST)เกาหลีใต้1411มหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo)ญี่ปุ่น1514มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง (HKUST)ฮ่องกง1617มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University)เกาหลีใต้=1723มหาวิทยาลัยซิตี้ฮ่องกง (City University of Hong Kong)ฮ่องกง=1716มหาวิทยาลัยเกียวโต (Kyoto University)ญี่ปุ่น1918มหาวิทยาลัยซองคยุนกวาน (Sungkyunkwan University)เกาหลีใต้2022มหาวิทยาลัยโทโฮคุ (Tohoku University)ญี่ปุ่นจีนเป็นผู้นำเอเชียในฐานะศูนย์กลางการวิจัย โดยมีมหาวิทยาลัย 24 แห่งติด 50 อันดับแรกในด้านจำนวนครั้งที่งานวิจัยแต่ละฉบับได้รับการอ้างอิง (Citations per Paper) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่างานวิจัยของมหาวิทยาลัยเหล่านี้มีอิทธิพลในระดับสูง อินเดียมีความโดดเด่นในด้านปริมาณงานวิจัย โดยมีมหาวิทยาลัย 7 แห่งติด 10 อันดับแรกในด้านจำนวนงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ต่อจำนวนอาจารย์ (Papers per Faculty) และอินเดียยังขึ้นชื่อว่ามีสัดส่วนบุคลากรที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ญี่ปุ่นยังคงมีชื่อเสียงที่ดีในระดับสากลทั้งในหมู่ผู้จ้างงานและแวดวงวิชาการ ในขณะที่คาซัคสถานเป็นผู้นำในเอเชียกลาง โดยมีมหาวิทยาลัย 1 แห่งที่ติด 100 อันดับแรก
สิงคโปร์รักษาตำแหน่งแนวหน้าในด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเอเชีย โดยมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งติด 5 อันดับแรกและมีอิทธิพลอย่างมากในด้านงานวิจัย ขณะที่เกาหลีใต้ก็มีความเป็นเลิศในด้านวิชาการ โดยมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งก้าวขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรก
มหาวิทยาลัยในมาเลเซียได้รับการยอมรับว่าโดดเด่นด้านความเป็นสากล ส่วนอิหร่านเป็นผู้นำของเอเชียในด้านผลิตภาพของงานวิจัยและจำนวนบุคลากรที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก อินโดนีเซียและไทยมีความโดดเด่นในด้านการมีคณาจารย์จากต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง และเวียดนามทำผลงานได้ดีที่สุดในแง่ชื่อเสียงในหมู่ผู้จ้างงาน
คุณเบน โซวเตอร์ (Ben Sowter) รองประธานอาวุโสของคิวเอส กล่าวว่า "ผลการจัดอันดับในปีนี้ตอกย้ำว่า ความพยายามในการยกระดับมาตรฐานทางวิชาการและคุณภาพงานวิจัยถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับความก้าวหน้าของภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาของเอเชีย"
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/2142268/4139307/QS_Quacquarelli_Symonds_Logo.jpg