ADD โชว์ผลงานQ3/66 รายได้เพิ่ม 27.02% (YoY) จ่อผนึกกลุ่มโอเปอเรเตอร์ เสิร์ฟความบันเทิงผ่านบริการเสริม ดันบริษัทย่อย HWTHAI เจาะธุรกิจ SECURITY และ LOYALTY ขยายฐานกลุ่มค้าปลีก-สถาบันการเงิน

ศุกร์ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๑:๔๓
บมจ.แอดเทค ฮับ ("ADD") กลับมาผงาด โชว์งบผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการให้บริการ 91.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.02% ขณะที่กำไรสุทธิ 9.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.10% ด้าน CFO "นายสมโภช ทนุตันติวงศ์"ส่งซิกธุรกิจฟื้น หลังดีลควบรวมทรู-ดีแทคแล้วเสร็จ หนุนตลาดให้บริการเสริมคึกคักขึ้น จ่อผนึกกลุ่มโอเปอเรเตอร์เสิร์ฟความบันเทิงผ่านบริการเสริมดันรายได้เพิ่ม พร้อมดันบริษัทในเครือ "HWTHAI"รุกต่อยอดการให้บริการด้าน SECURITY และ LOYALTY ขยายฐานลูกค้ากลุ่มค้าปลีก-สถาบันการเงิน

บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการให้บริการ 91.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2565 จำนวน 19.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.02% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากผู้ใช้บริการมีการใช้จ่ายเพื่อใช้บริการเสริมโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังจากการควบรวมกิจการ (TRUE-DTAC) ภายในอุตสาหกรรมมีความชัดเจน ในขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 3.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.48% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่ 9.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.10% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้จากการให้บริการ มีจำนวน 218.46 ล้านบาท ลดลง 43.74 ล้านบาท เนื่องจากการใช้จ่ายเพื่อใช้บริการเสริมโดยเฉลี่ยลดลงในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับความกังวลของผู้ใช้บริการที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อในอนาคต จึงทำให้ผู้ใช้บริการมีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือน อยู่ที่ 11.05 ล้านบาท ลดลง 33.11 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น

นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ("ADD") ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯทั้งรายได้และกำไรเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC ดำเนินการได้เป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้มีการเปิดให้บริการเสริมต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ ADD ได้รับอานิสงส์จากการรับรู้รายได้ส่วนแบ่งจากการให้บริการเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้จากแนวโน้มการฟื้นตัว ทำให้บริษัทฯเชื่อมั่นว่า ในไตรมาส 4/2566 ภาพรวมธุรกิจจะกลับมาโดดเด่นอย่างชัดเจนอีกครั้ง

ปัจจุบันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะการให้บริการเสริมด้านความบันเทิง ซึ่งกลุ่มโอเปอเรเตอร์เองมีการให้บริการเสริมด้านความบันเทิงผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ มากขึ้น นอกเหนือไปจากแพ็กเกจโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่ง ADD ในฐานะพันธมิตรที่เชี่ยวชาญคอยร่วมสนับสนุนระบบเบื้องหลังการให้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว สามารถช่วยให้โอเปอเรเตอร์มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานดียิ่งขึ้น โดยโปรเจ็คต์ต่าง ๆ ได้ทยอยเปิดให้บริการระบบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3

นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ADD ยังได้กล่าวถึงการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมาว่า แผนการขับเคลื่อนการลงทุนของ ADD ถือเป็นการลงทุนในธุรกิจที่สร้าง New S-Curve สู่การต่อยอดทางธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทฯสามารถทยอยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้นในแต่ละบริษัท ซึ่งในระยะ 2-3 ปีแรก แม้ว่าบริษัทฯจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรไม่สูงมากนัก แต่ภายหลังจากปี 2567 เชื่อว่าทุกธุรกิจของทั้ง 4 บริษัทที่มีการลงทุนไป อาทิ บริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด ("7C"), บริษัท ไฮเว็บ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ("HWTHAI"), บริษัท โอริสมา จำกัด (OMH) และล่าสุด บริษัท จีทีไอ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ("GTI") จะสะท้อนตัวเลขผลการดำเนินงานอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างการดำเนินงานในแต่ละธุรกิจ พร้อมทั้งบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าในการนำบริษัทที่เข้าไปลงทุนในข้างต้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปีจากนี้อย่างน้อย 1 บริษัท โดยจะพิจารณาตามลำดับความเหมาะสม

สำหรับแผนการในปี 2567 นอกเหนือไปจากการขยายการให้บริการระบบร่วมกับโอเปอเรเตอร์ ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ ADD อยู่ระหว่างศึกษาต่อยอดด้านการให้บริการด้าน SECURITY และ LOYALTY ผ่านบริษัท ไฮเว็บ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ("HWTHAI") ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระบบการบริหารจัดการด้านความสัมพันธ์ของลูกค้า (CRM) เพื่อการให้เชื่อมต่อเข้ากับระบบการชำระเงินผ่านบัตรและแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งระบบการยืนยันตัวตน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เจาะลูกค้ากลุ่มค้าปลีกและสถาบันการเงิน หรือกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพัฒนาได้ในครึ่งปีแรกของปี 2567 จากการขับเคลื่อนดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจอัตราการเติบโตในปี 2567 ว่าจะสามารถผลักดันรายได้กลับมาแตะระดับ 500 ล้านบาท

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ