เบาหวานขณะตั้งครรภ์: รู้ว่าเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยง

จันทร์ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๑:๐๗
วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี สหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ และองค์การอนามัยโลก กำหนดให้เป็นวัน "เบาหวานโลก" เพื่อสร้างการตระหนักและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโรคเบาหวาน รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยะนันท์ ลิมเรืองรอง ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงโรค "เบาหวาน" เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร เกิดจากตับอ่อนทึ่ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ได้น้อย หรือประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินลดลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น โรคเบาหวาน โดยทั่วไปเราจำแนก เป็น 4 ประเภท คือ

- เบาหวานประเภทที่ 1 พบได้ประมาณร้อยละ 5 เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ จึงต้องฉีดอินซูลินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดอินซูลิน และไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไป อาจทำให้หมดสติ และเสียชีวิตได้ มักพบในเด็กและวัยรุ่น

- เบาหวานประเภทที่ 2 พบได้มาก ประมาณร้อยละ 95 และมักจะพบในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินไปใช้ได้อย่างเพียงพอ และร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน กลุ่มนี้มักไม่มีอาการอย่างเฉียบพลัน แต่หากขาดการควบคุมและรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่เป็นอันตรายอย่างเฉียบพลันได้ เช่น เกิดความดันโลหิตสูง โรคทางตา ไต และโรคหลอดเลือดหัวใจ

- เบาหวานขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากการตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนจากรก ทำให้ประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง จึงทำให้เกิดระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งตรวจพบได้ในช่วงของการตั้งครรภ์เป็นครั้งแรก เราจึงเรียกว่า "เบาหวานขณะตั้งครรภ์"

- เบาหวานจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม หรือโรคของตับอ่อน เบาหวานประเภทนี้พบเจอได้ค่อนข้างน้อย

"เบาหวานขณะตั้งครรภ์" ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่วางแผนจะมีบุตร เพราะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ คือผู้ที่สร้างคนรุ่นใหม่ (next generation)  ซึ่งสามารถส่งผลต่อชีวิตของลูกในอนาคตได้

จากการศึกษาวิจัยโดยการติดตามลูกที่เกิดจากแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ในระยะยาวพบว่า เด็กกลุ่มนี้จะมีน้ำหนักตัวมาก มีภาวะของโรคอ้วน และมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะเป็นเบาหวานได้ในอนาคต จึงเป็นเหตุผลที่เราควรจะต้องป้องกันตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ สำหรับตัวคุณแม่เองหลังจากคลอดแล้วฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่จะต้องกลับสู่ภาวะปกติ แต่ก็มีงานวิจัยพบว่า ร้อยละ 40-50 ของแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีภาวะเสี่ยงสามารถจะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ภายในระยะเวลา 5-10 ปี หลังจากคลอดได้

ดังนั้น สตรีที่วางแผนจะมีลูก ควรมีการวางแผนดูแลตนเองให้ห่างไกลจากเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยการรักษาน้ำหนักของตนเองให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 18.8-22.9 กก./ตร.ม.) ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตในเรื่อง การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการควบคุมอารมณ์

คุณแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้

การรับประทานอาหาร - คุณแม่ตั้งครรภ์ควรแบ่งมื้ออาหารเป็น 3 มื้อหลัก 3 มื้อย่อย และรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป โดยแบ่งสัดส่วนอาหารเป็น 2:1:1 (ผัก 2 ส่วน ข้าว/แป้ง 1 ส่วน และโปรตีน 1 ส่วน) เลือกทานโปรตีนที่ไม่ติดมัน ใช้ไขมันไม่อิ่มตัวในการปรุงอาหาร เน้นอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และเลือกวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสม ใช้การต้ม นึ่ง แทนการผัด หรือทอด เป็นต้น

การออกกำลังกาย - ทำให้สารอินซูลินในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ให้ได้ 3-5 วัน/สัปดาห์ อาจใช้วิธีการเดิน เล่นโยคะ หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

การควบคุมอารมณ์ - ความเครียดส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ คุณแม่จึงควรหากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น ดูหนัง ฟังเพลงที่ชอบเป็นต้น

คือ

ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนั้น สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมของตนเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ยากของคนทั่วๆ ไป แต่ว่าก็ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เสียทีเดียว ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้

1.การตั้งเป้าหมายพฤติกรรม คือกำหนดว่าเราต้องการจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านไหนของเรา เช่น ลดการรับประทานของมัน ของหวาน เป็นต้น

2.การสร้างแรงจูงใจ คุณแม่ส่วนใหญ่จะมีลูกเป็นเหตุผลที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการปรับพฤติกรรมของตนเองให้ประสบผลสำเร็จได้

3.การสร้างความเชื่อมั่น การได้รับคำชื่นชมจากคนในครอบครัวและคนรอบข้าง เป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นได้

4.การติดตามผลลัพธ์ เพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ประสบความสำเร็จ และพร้อมสำหรับการก้าวต่อไป

"เบาหวาน เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเพื่อสุขภาวะที่ดี จะทำให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานได้"

 

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ