"ไทยวา" เร่งผลักดัน "ไทยวาโมเดล" ส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน ช่วยเกษตรกรไทยรับมือวิกฤตโลกร้อนและโรคระบาดในพืช

จันทร์ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๖:๐๐
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นอันดับหนึ่งของโลก และมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 93,000 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากความต้องการมันสำปะหลังทั่วโลกเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อนำไปใช้ผลิตอาหาร พลังงานชีวภาพ และไบโอพลาสติก แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยกำลังประสบปัญหาด้านความสามารถในการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งยังขาดเสถียรภาพเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ที่ทำให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้พืชขาดน้ำ ประกอบกับการระบาดของไวรัสใบด่างในมันสำปะหลัง ส่งผลให้เกษตรกรขาดแคลนต้นพันธุ์ปลอดโรคเพื่อใช้ในการเพาะปลูก ซึ่งซ้ำเติมให้ปัญหารุนแรงมากยิ่งขึ้น

ปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลต่อศักยภาพของประเทศไทยในการแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกมันสำปะหลังอื่นๆ และยังกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ต้องพึ่งพารายได้จากพืชเศรษฐกิจนี้ ไทยวาซึ่งดำเนินธุรกิจด้านเกษตรและอาหารเคียงคู่สังคมไทยมากว่า 75 ปี ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงไม่นิ่งนอนใจและได้เร่งพัฒนานวัตกรรมและความยั่งยืนตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงมือผู้บริโภค ด้วยวิสัยทัศน์ Innovation and Sustainability from Farm to Shelf เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา จนเกิดเป็น 'ไทยวาโมเดล' ที่บูรณาการนวัตกรรมและแนวทางการเพาะปลูกที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังในประเทศไทยมีความยั่งยืน และสร้างผลผลิตและรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรต่อไป

หทัยกานต์ กมลศิริสกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายกลยุทธ์ ความยั่งยืน นวัตกรรม บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในฐานะที่ไทยวาเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมนี้ เราเข้าใจดีถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเปลี่ยนผ่านเกษตรกรรมไทยไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมันสำปะหลังให้เติบโตได้ในอนาคต เราจึงได้นำเสนอไทยวาโมเดลที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อส่งเสริมชาวไร่มันสำปะหลังซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบหลัก โดยไม่เพียงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเพาะปลูกและผลิตอาหารเท่านั้น แต่ยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญต่อทุกคน"

โครงการ ไทยวาโมเดล มุ่งเน้นไปที่การจัดการดินที่ยั่งยืนและการทำการเกษตรอย่างมีความรับผิดชอบ ประกอบด้วยเสาหลักใน 3 ด้าน ได้แก่

  • การดูแลดินด้วยปุ๋ยชีวภาพ เพราะหัวใจของไทยวาโมเดลคือการดูแลดินซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเพาะปลูก ไทยวาจึงคิดค้นปุ๋ยชีวภาพ TW8 ขึ้น เพื่อบำรุงและฟื้นฟูดิน ประกอบด้วยจุลินทรีย์ถึง 8 ชนิดที่มีบทบาทสำคัญในการย่อยอินทรีย์วัตถุให้กลายเป็นสารอาหาร ช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศลงสู่ดิน และช่วยสร้างสารอาหารที่จำเป็น เช่น ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม โดยเกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพ TW8 ได้เองโดยใช้ของเหลือทิ้งจากการเกษตรได้อย่างหลากหลาย เช่น ใบมันสำปะหลัง จึงทำได้ง่าย ช่วยลดต้นทุน แต่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับพืช
  • นวัตกรรมพลาสติกคลุมดินที่ย่อยสลายได้ ไทยวาได้แนะนำพลาสติกคลุมดิน ROSECO ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยลดการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดวัชพืช แต่ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในดิน ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาฝนทิ้งช่วงที่เกษตรกรไทยกำลังประสบอยู่ จึงช่วยเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสิ้นฤดูกาลเพาะปลูกยังสามารถไถกลบฟิล์มชีวภาพ ROSECO หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งจะย่อยสลายและกลายเป็นปุ๋ยในดินที่มีประโยชน์ต่อจุลินทรีย์ แนวทางนี้ไม่เพียงสะดวกสำหรับเกษตรกร แต่ยังช่วยบำรุงดิน และลดผลกระทบจากการใช้สารเคมีอีกด้วย
  • ธนาคารท่อนพันธุ์มันสำปะหลังปลอดโรค ไทยวาประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง โดยใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้จากโครงการโรงเรือนกระจกเพื่อการขยายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังแบบเร่งด่วน ซึ่งเป็นโครงการที่ไทยวาร่วมมือกับสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย หรือ TTDI ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เพาะได้ครั้งละ 4-5 ท่อน เป็น 20 ท่อน ปัจจุบันไทยวามีโรงเรือนในประเทศไทยทั้งหมด 10 แห่ง ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง กาฬสินธุ์ และ ตาก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญของบริษัท จึงสามารถจัดหาท่อนพันธุ์มันสำปะหลังคุณภาพสูงให้กับเกษตรกรในเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดไทยวายังสร้างโรงเรือนกระจกในอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งห่างไกลจากไร่มันสำปะหลังแหล่งอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะมีต้นพันธุ์ที่ปลอดโรคแจกจ่ายให้กับเกษตรกรในเครือข่ายได้ตลอดทั้งปี

โครงการไทยวาโมเดล เป็นหนึ่งในตัวอย่างความมุ่งมั่นของไทยวาในการนำวิสัยทัศน์ขององค์กรมาพัฒนาเป็นแนวทางที่สร้างคุณค่าให้กับเกษตรกรและสังคม โดยไม่เพียงช่วยรับมือความท้าทายที่อุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทยกำลังเผชิญ แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนเพื่อลดปัญหาที่โลกของเราประสบอยู่ โดยเน้นการการทำการเกษตรอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งไทยวาจะเดินหน้าผลักดันให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืนในประเทศไทยต่อไป

ที่มา: ฮิลล์แอนด์นอลตัน สแตรทิจีส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ