นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SSP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2566 มีมติให้เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยจะดำเนินการซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 810 ล้านบาท หรือจำนวนหุ้นไม่เกิน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นไม่เกิน 6.55% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2567
ทั้งนี้พร้อมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) มั่นใจสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยจากงบการเงินไตรมาส 3/2566 ของบริษัท และบริษัทในเครือมีเงินสดและเงินฝากธนาคารรวมกว่า 4,600 ล้านบาท ลั่นมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการจ่ายดอกเบี้ยและการชำระคืนหนี้สิน รวมทั้งคาดการณ์เงินลงทุนของทั้งกลุ่มในอีก 6 เดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน
ในขณะที่ ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ 9 เดือนสะสม (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) มีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,333.9 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดลพบุรี โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม และมีรายได้จากการติดตั้งโซลาร์รูฟท๊อป (EPC) ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 701.1 ล้านบาท
สำหรับโครงการในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เริ่มก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ โดยทำรายการซื้อหุ้นทั้งหมดเพิ่มอีกใน บริษัท วินชัย จำกัด ด้วยมูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 2,322 ล้านบาท เป็นสัดส่วน 75% ซึ่งจะทำให้ SSP ถือหุ้นรวมทั้งหมด คิดเป็น 100% โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว และพร้อมรับรู้รายได้ทันที คาดธุรกรรมแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ล่าสุดบอร์ดมีมติอนุมัติให้เข้าศึกษาความเป็นไปได้โครงการลงทุนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนใน มณฑลไถหนาน ประเทศไต้หวัน มีกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ หากมีความคืบหน้าจะนำมาอัพเดตอีกครั้ง
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเป็นเท่าตัวในอีก 3 ปีข้างหน้าแตะ 500 เมกะวัตต์ จากไตรมาส 3/2566 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 245 เมกะวัตต์
ที่มา: เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น