นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP เปิดเผยว่า "ในภาพรวมผลประกอบการมีการเติบโตขึ้นทั้งในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนปีนี้ ซึ่งผลประกอบการของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ TCAP เข้าไปลงทุนมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) และเอ็มบีเค (MBK) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมมีผลประกอบการเติบโตขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับแผนกลยุทธ์ของ TCAP ที่เล็งเห็นว่าแต่ละธุรกิจที่ TCAP ลงทุนมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าไปลงทุนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ รวมทั้งการขยายการให้สินเชื่อผ่านธนชาตพลัส ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่งผลให้กำไรสุทธิตามงบการเงินรวมส่วนของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2566 เติบโตขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2566 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้นจากการเติบโตของสินเชื่อของบริษัทย่อยและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น จากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
จากผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 และได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา และ TCAP มีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลการดำเนินงานและการดำรงสภาพคล่องของบริษัทฯ
อีกทั้ง ในปีนี้ TCAP ยังได้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นปีแรก และเป็น 1 ใน 193 บริษัทที่ผ่านการประเมินความยั่งยืน เป็นหุ้นยั่งยืน หรือ SET ESG Ratings โดยได้รับการประเมิน Rating อยู่ที่ระดับ "A" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ TCAP ที่ผ่านมา และ TCAP ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต"
ที่มา: กลุ่มธนชาต