"บมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์" หรือ CV กำหนดราคา RO ใหม่ 0.50 บาท/หุ้น พ่วง Warrant 0.50 บาท/หุ้น และกำหนดเวลาการใช้สิทธิ 5 - 19 มกราคม 2567 เพื่อให้สอดคล้องกับราคาหุ้นในปัจจุบัน

ศุกร์ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๓:๒๙
การประชุมคณะกรรมการบริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติให้ยกเลิกการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในราคา 1.0 บาทต่อหุ้น ที่เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

โดยในการประชุมคณะกรรมการบริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในราคา 0.50 บาทต่อหุ้น และกำหนดราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (CV-W1) ในราคา 0.50 บาทต่อหุ้น เพื่อให้สอดคล้องกัน โดยจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 5 - 19 มกราคม 2567

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็ก เปิดเผยว่า เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ และจากที่สถานการณ์สงครามในต่างประเทศส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศและราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งส่งผลให้ราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมูลค่าลดลงต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และต่ำกว่าราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ

เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น และเพื่อให้การเพิ่มทุนของบริษัทฯ สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ทางบริษัทฯ ได้ทำการยกเลิกและคืนเงินการรับจองซื้อหุ้นในราคา 1.0 บาทต่อหุ้นดังกล่าว และให้ผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้แก้ไขการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) เพื่อใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นในราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ได้กำหนดใหม่ ให้สอดคล้องกับราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบัน

สำหรับสรุปภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือน ของกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 876.44 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจาก กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า มีรายได้รวม 9 เดือน 435.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.61 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 จากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า ส่วนกลุ่มธุรกิจวิศวกรรม มีรายได้รวม 9 เดือน 390.57 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิง มีรายได้รวม 9 เดือน 44.58 ล้านบาท

โดยสำหรับในไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มปริมาณงานซื้อขายเชื้อเพลิงขยะ เตรียมลงนามสัญญาซื้อขาย Wood Pallet พร้อมกับพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะร่วมกับพันธมิตร และรับงาน EPC ในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมากเข้ามา รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้ายังคงเดินหน้าเดินเครื่องตามปกติ

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ