นายสิริวัฒน์ ธนุรเวท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) (SRS) ให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและพัฒนาซอฟต์แวร์ในรูปแบบที่หลากหลาย ผ่านแนวทางการทำงานแบบ DevOps (Development & Operations) พร้อมด้วยกลุ่มบุคลากรเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบด้วย High Code เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานบริษัทฯ งวดประจำไตรมาส 3/2566 (กรกฎาคม - กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 147.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.26 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 60.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 71.67 คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2566 ที่ร้อยละ 41.20 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 34.86 ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 25.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 99.06 นับเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สนับสนุนให้งวดเก้าเดือนแรกของปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 454.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 43.98 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 453.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.85 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 169.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.02 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.29 สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและการให้บริการ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนปีนี้เทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 37.33 และร้อยละ 37.22 ตามลำดับ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 72.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.13 ซึ่งนับเป็นผลงานงวด 9 เดือนที่เติบโตมากกว่า ปี 2565 ทั้งปีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีรายได้จากการขายและให้บริการ 410.81 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 68.69 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ได้ในระดับสูงต่อเนื่องที่ร้อยละ 121.50
สำหรับการเติบโตของรายได้มีสาเหตุหลักมาจาก การให้บริการพัฒนาโปรแกรมมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนโครงการทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ประกอบกับ ในปีนี้มีการรับพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในงานมาก นอกจากนี้ รายได้จากการขายสินค้าและลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการขายซอฟต์แวร์แบบ Perpetual และ Subscription License ของทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่ที่รับเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2565 และปี 2566 อย่างไรก็ดี บริษัทพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอย่างรัดกุม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายทีม และมีการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
นายสิริวัฒน์ กล่าวต่อถึง ภาพรวมสิริซอฟต์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีมั่นใจ เดินหน้าตามเป้าหมาย โดยคาดว่าเป็น New High จากปี 2565 โดย มี (Backlog) รอรับรู้รายได้ ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 461 ล้านบาท กำหนดส่งมอบงานในปีนี้ราว 32% ของงานในมือ และปัจจุบันมีงานใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง โดยล่าสุด SRS ได้รับงานใหม่จากบริษัทชั้นนำ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเทคโนโลยี และภาครัฐ เข้ามาเสริมพอร์ต และยังมีงานโปรเจ็กต์ต่อเนื่องที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้ากลุ่มหลัก และเรากำลังเดินหน้ากลยุทธ์ขยายพอร์ต ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม และลุ้นโอกาสรับงานเพิ่มเติมในปีนี้หลักร้อยล้านเข้ามาเสริมแกร่งงานในมือ และสร้างฐานการเติบโตในปีหน้า
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาสิริซอฟต์ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า สามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพ และรวดเร็ว ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตกว่าเท่าตัว เนื่องจาก เรานำระบบมาใช้บริหารจัดการ พร้อมด้วยขยายทีมงานเพื่อรองรับความต้องการของตลาดด้านไอทีที่เพิ่มมากขึ้น โดย ณ สิ้นกันยายน ปี 2566 เรามีพนักงานในองค์กร 287 คน และเป็นนักพัฒนา (Developers & Engineers) 148 คน สำหรับจำนวนนักพัฒนาที่สูงขึ้นคาดว่าจะสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองดีมานด์ลูกค้ารายเดิม และรับงานโครงการพัฒนาระบบและซอฟต์แวร์ได้เพิ่มขึ้น และเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ สนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ส่งผลมาถึงรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะสนับสนุนให้ SRS เป็นบริษัทเทคโนโลยีของคนไทยที่สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้
พร้อมประกาศตอบแทนผู้ถือหุ้นทันทีหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้วยการไฟเขียวจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลมูลค่า 0.13125 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 และวันที่จ่ายปันผล 13 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ SRS เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ เทคโนโลยี (Technology) ในวันที่ 10 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา วางแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจ พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในองค์กร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างสำนักงานส่วนที่ขยายเพิ่มเติมเพื่อรองรับพนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างตกแต่งภายใน คาดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมรับการเติบโตในปีหน้า
ที่มา: ไออาร์ พลัส