ธุรกิจแรก ด้านงาน call center ยังเป็นบริการที่มีความต้องการสูงในแทบทุกองค์กร ที่อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการติดต่อกับบริษัทต่างๆโดยตรง ในฐานะผู้ให้บริการ OTO จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำงานให้มีความแม่นยำ ปลอดภัย ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ผนวกกับการนำ BigData มาร่วมประมวลผล สร้างประสิทธิภาพสูงสุดแก่ลูกค้า เรียกว่าเป็นการให้บริการธุรกิจ "Smart Call Center" ยกระดับงานให้ตอบรับกระแสความก้าวหน้าทันเทคโนโลโย่มากขึ้น
สองคือการมุ่งสู่ธุรกิจที่ทางบริษัทฯ รวมถึงทีมบริหารมีความถนัดและมุ่งมั่นอยู่แล้ว เพื่อสร้าง Growth แก่องค์กร คือธุรกิจ peer to peer lending platform (P2P) โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อธุรกิจ P2P "Nestify" อยู่ระหว่างรอการอนุญาตจากแบงก์ชาติ
OTO พร้อมต่อยอดนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาให้ 2 ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ เกิดการ Synergy อย่างแข็งแกร่ง และเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆแก่สังคม สร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่บริษัทฯ ต่อไป
และคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนมูลค่า 720 ล้านบาท จำนวนหุ้น 1,200,000,000 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จะกระจายสู่กลุ่มนักลงทุน 6 รายได้แก่ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO โดย นาย จิรายุ เชื้อแย้ม ประธานกรรมการบริหาร เผย OTO สร้างเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทฯ เพื่อเฟ้นหาธุรกิจที่จะเข้ามาเป็นรายได้หลักที่มั่นคง จึงปักหมุดนำธุรกิจ "Smart Call Center" และ "P2P Lending Platform" เข้ามาพร้อมรวมทีมบริหารที่มากด้วยประสบการณ์ ความสามารถเพื่อมุ่งสร้างพลัง Synergy ให้เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่อื่นๆในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมแจกวอแรนต์ฟรี!!! (การออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (OTO-W2)) แก่ผู้ถือหุ้น สัดส่วน 11:5 (หุ้นเดิม:หุ้นใหม่) จำนวนไม่เกิน 906,016,595 หน่วย มีอายุ 2 ปี และกำหนดราคาใช้สิทธิที่ 1.30 บาท ต่อหุ้น โดยที่ประชุมฯ ได้มีมติอนุมัติการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 และกำหนดวันประชุมในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 (Record Date) ในวันที่ 15 มกราคม 2567
จัดเป็น Investment Company ที่กระจายการลงทุนสู่ธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ของโลก, นาย คณิสสร์ ศรีวชิระประภา, ม.ร.ว. จุลรังษี ยุล, นางสาว รฐา วีระพงษ์, นาย อาดาม อินสว่าง และ นาย ปฎิพล ประวังสุข ซึ่งบริษัทฯ พิจารณาแล้วว่าเป็นกลุ่มนักลงทุนเกรดพรีเมียมที่มีศักยภาพด้านเงินทุนและความพร้อมต่อการสนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตต่อยอดไปได้อย่างแน่นอน
ที่มา: บางกอก ออทัม