"KTAM ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายผ่านการลงทุนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยกองทุน Thai ESG นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของ ESG (ESG: Environmental, Social and Governance) เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 800 บริษัท แต่มีบริษัทที่ยื่นเอกสารหรือกรอกข้อมูล ESG มีเพียง 210 แห่งเท่านั้น ดังนั้น กองทุนนี้จะช่วยผลักดันบริษัทในประเทศไปสู่สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุนอีกด้วย" นางชวินดา กล่าว
สำหรับกองทุน Thai ESG เป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมจากกลุ่มกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด ซึ่งเดิมประกอบด้วย กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนสงเคราะห์ครูฯ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนการออมแห่งชาติ และประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่สามารถลงทุนรวมกันสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
โดยกองทุน Thai ESG เน้นลงทุนในหุ้นไทย และตราสารหนี้ไทย ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยกำหนดให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทในปีภาษีนั้น ๆ ไม่กำหนดจำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี และจะต้องลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 8 ปีเต็ม หรือเท่ากับ 10 ปีปฏิทิน เช่น ซื้อกองทุนวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ก็จะครบกำหนดในปี 2575 เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ถึง 600,000 บาทในปีนี้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
ที่มา: บลจ.กรุงไทย