ASIAN มองยอดขายปีนี้ทำได้ 9,700 ล้านบาท ชูฐานะการเงินแกร่ง รับกระทบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง-อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง แต่คาดปีหน้าฟื้น

ศุกร์ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๑:๑๓
'บมจ. เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ ASIAN' มองยอดขายรวมปีนี้ทำได้ 9,700 ล้านบาท คาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอยู่ที่ 12-13% แม้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง-อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ปริมาณการขายลดลง แต่ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รับอานิสงส์ปรับปรุงสูตรและคัดสรรวัตถุดิบมีคุณภาพ ขณะที่ ฐานะการเงินแข็งแรง มีกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงาน 9 เดือนแรก 569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182 ล้านบาทจากปีก่อน เนื่องจากลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือมีการเปลี่ยนแปลงลดลง อย่างไรก็ดี แนวโน้ม Q3/66 มีทิศทางดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Q2/66 เดินหน้าลงทุนตามแผนเดิม รับตลาดปีหน้าฟื้น

นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า คาดว่าภาพรวมยอดขายของทั้งกลุ่มจะลดลงจากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ราว 9,700 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก มียอดขายลดลงอย่างมาก และมีสัดส่วนลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 45% ของยอดขายรวม ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะทำยอดขายได้ 4,400 ล้านบาท มองแนวโน้มอาหารสัตว์เลี้ยงในปีหน้ายังมีอัตราการเติบโต และรองลงมาคือธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการบริโภคภายในตลาดหลักของลูกค้าชะลอตัวลง จากสภาพเศรษฐกิจในยุโรป และอัตราเงินเฟ้อ คาดทำยอดขายย่อลงมาอยู่ที่ประมาณ 2,900 ล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำทำได้ดีขึ้น โดยเติบโตจากอาหารกุ้งเป็นหลัก คาดการณ์ยอดขายทั้งปีอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท และธุรกิจทูน่ายอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท โดยมองอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสามารถทำได้ในช่วงระหว่าง 12% - 13% จากงวด 9 เดือนทำอัตรากำไรขั้นต้นแล้วที่ 12.2% โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดีขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คาดว่าปี 2566 จะใช้งบลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 671 ล้านบาท ตามที่ได้จัดสรรไว้เดิม แบ่งเป็น งบลงทุน 473 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก ขณะที่ใช้งบลงทุน 54 ล้านบาทสำหรับการขยายการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดและเปลี่ยนหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) และงบลงทุน 144 ล้านบาทสำหรับโครงการติดตั้ง Solar Roof และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง

ทั้งนี้ ล่าสุด ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 2,535 ล้านบาท ลดลง 15.4% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 2,996 ล้านบาท แต่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งมีรายได้ 2,338 ล้านบาท เป็นผลจากการดำเนินงานของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักได้รับผลกระทบจากการปรับลดปริมาณสินค้าคงเหลือของลูกค้าในตลาดอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และธุรกิจทูน่าที่ลดลงมาจากปริมาณการสั่งสินค้าของลูกค้าในตะวันออกกลางลดลง ในทางกลับกันธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นจากปีก่อนอย่างมาก มาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาด อันเป็นผลจากคุณภาพอาหารสัตว์น้ำที่ดีขึ้น

ขณะที่ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 156 ล้านบาท ลดลงราว 36% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน เกิดจากการลดลงของกำไรขั้นต้นที่เป็นผลมาจากรายได้ของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ต่ำกว่าปีก่อน ประกอบกับรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำที่อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้น

"ภาพรวมรายได้ที่ลดลง สอดคล้องกับปริมาณการขายที่ลดลง โดยไตรมาส 3/2566 มีปริมาณการขายอยู่ที่ 19,189 ล้านตัน ลดลงเมื่อเปรียบเทียบปีก่อน 10% โดยเฉพาะกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมีปริมาณการขาย 6,825 ล้านตัน ที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อนถึง 30% แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2566 มีทิศทางเพิ่มขึ้น" นายเอกกมล กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก 2566 บริษัทฯ มีรายได้ 7,146 ล้านบาท ลดลง 17.3% มีกำไรสุทธิ 222 ล้านบาท ลดลง 71% สาเหตุหลักจากการลดลงจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลูกค้าหลัก ได้ปรับลดปริมาณสินค้าคงเหลือตั้งแต่ปลายปี 2565 เช่นเดียวกันกับอาหารทะเลแช่เยือกแข็งที่รายได้ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากการบริโภคภายในตลาดหลักของลูกค้าชะลอตัวลง ไม่ว่าจะเป็นที่ อเมริกา หรือ ยุโรป โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม ซึ่งได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ครึ่งปีแรกธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมีพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นผลต่อเนื่องจากคุณภาพอาหารสัตว์น้ำ จากที่ได้ดำเนินการปรับปรุงสูตรและการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้มากยิ่งขึ้น จนทำให้รายได้มีอัตราการเติบโตในแนวโน้มที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี ASIAN มีรายการสำคัญในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 ที่สามารถทำได้ดีขึ้นในด้านการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น และมีต้นทุนทางการเงินลดลง จากการได้เงินโครงการเสนอขายหุ้น (IPO) และชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนด ในด้านภาษีมีการบันทึกจาก BOI ที่ได้ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ 569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 387 ล้านบาท เป็นผลจากสินทรัพย์ดำเนินงานลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือ มีการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 613 ล้านบาท และ หนี้สินในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 119 ล้านบาท แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานลดลง 623 ล้านบาท

ที่มา: IR PLUS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ