นางสาววิภาภรณ์ เนียมละออง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ในไตรมาสสุดท้ายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ในการผลักดันการขายผ่านช่องทาง Online ใน E-commerce Platform ทั้งใน Social Commerce และ Market Place โดยบริษัทได้เริ่มการขายผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live Streaming) ทั้งใน Shopee Live, Lazada Live และ TikTok Live อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นการผลักดันยอดขายให้เติบโตและเป็นการจับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นในการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ โดยการปรับแผนกลยุทธ์ และกำหนด Business Model ที่เหมาะสมในการแข่งขันในตลาดอินโดนีเซีย รวมถึงการขยายธุรกิจในตลาดใหม่อื่นๆ เช่นการขยายไปยังประเทศจีนผ่านช่องทางออนไลน์ ควบคู่ไปกับแผนการตลาดที่ช่วยเข้ามาสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของบริษัท
ในขณะเดียวกันบริษัทวางเป้ารายได้จะเติบโตแตะระดับ 2 หลักในปี 2567 จากแผนการออกสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านนวัตกรรมให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมุ่งเน้นการขายผ่าน Online platform นอกจากนี้ บริษัทยังคงศึกษาแผนในการขยายตลาดในต่างประเทศ โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการขยายตลาดในประเทศในภูมิภาคอาเซียน และมีโอกาสที่จะพัฒนาการขยายตลาดไปยังประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคตอีกด้วย
"ในไตรมาสสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น เราจะเน้นไปที่การตลาดดิจิทัล ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงการโฆษณาเท่านั้น แต่จะเน้นการสร้างการเติบโตของยอดขายควบคู่ไปด้วยกัน ซึ่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมากเห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ในส่วนของช่องทางออฟไลน์เรายังมุ่งมั่นในการขยายจุดขายพร้อมทั้งการจัดวางตำแหน่งสินค้าให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ดียิ่งขึ้น บริษัทตั้งเป้าในการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและอัตราการเติบโตที่ดีในตลาด Facial Moisturizer จากการพัฒนาสินค้าที่เป็น Innovation เพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นผู้นำตลาด รวมถึงการลงทุนในการทำการตลาดเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแผนในการหา Business Model ใหม่ๆ ในตลาดต่างประเทศในปัจจุบัน และการขยายตลาดในประเทศอื่นๆ " นางสาววิภาภรณ์กล่าว
ทั้งนี้ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนของปี 2566 บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปี และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15.2% เพิ่มขึ้นจาก 14.6% ในช่วงเดียวกันปีก่อนจากการบริหารจัดการต้นทุนการขายและค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของรายได้ และกำไรสุทธินั้นเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายในประเทศ คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 26% ซึ่งเป็นผลจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPDs) นำโดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Rojukiss และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Sis2Sis และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การจัดวางสินค้าให้เข้าถึง และมองเห็นได้ง่าย รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในช่องทางออนไลน์ที่เริ่มการขายในรูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่งในช่องทาง E-Commerce อีกด้วย
ที่มา: กลอรี่ แบรนดิ้ง