"อย่างไรก็ดี ในภาวะที่ดอกเบี้ยค้างสูงยาวนาน นักลงทุนควรจัดสรรการลงทุนอย่างรอบคอบ (Prudent Asset Allocation) โดยเน้นรายได้มากกว่ากำไรจากส่วนต่างราคาในส่วนของตราสารหนี้ เน้นหุ้นคุณภาพสูงและกระจายการลงทุนใน Real Asset โดยมองว่ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก (Global REIT) มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม Real Asset ในปีหน้า" นายทวีศักดิ์กล่าว
นอกจากนั้น นายทวีศักดิ์ยังวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยว่า ในระยะยาวยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างที่กดดันตลาดและโอกาสการลงทุนจำกัดกว่าหุ้นทั่วโลก แต่ในปีหน้าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่ดีกว่า จึงได้แนะนำเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยจาก Underweight เป็น Overweight โดยเป็นคำแนะนำให้สถานะ Overweight ครั้งแรกในรอบ 15 ปีของบล. เกียรตินาคินภัทร เป้าหมายดัชนี SET ณ สิ้นปี 2024 อยู่ที่ 1,600 คิดเป็น upside รวมเงินปันผลที่ 17% จากระดับปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2023)
"ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมี 4 ประการ คือ การเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเติบโตแข็งแกร่งขึ้น มีการประเมินมูลค่ากิจการ (valuation) น่าสนใจมากขึ้นและมีแนวโน้มว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดไทยในปี 2024 นี้"
ที่มา: กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร