ท็อปส์ ผนึก ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย เปิดตัวรถขนส่งไฟฟ้าพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนอนาคตกรีนโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซ 13,335 ตัน ภายใน 5 ปี

จันทร์ ๐๔ ธันวาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๕๑
ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลัง ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก ยกระดับสู่การเป็น "Green & Sustainable Retail" ด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า 4 ล้อ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เริ่มต้นนำร่องรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารวม 10 คัน เพื่อขนส่งกระจายสินค้าจากดีเอชแอล บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส ไปยังร้านท็อปส์ เดลี่ ทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ท็อปส์ ยังวางแผนเพิ่มจำนวนรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในระบบขนส่งของท็อปส์อีกเพิ่มเติม รวม 29 คันในปี 2567 ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มเติมในต่างจังหวัด ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการเดินหน้าสู่เป้าหมายร่วมกันในการบรรลุการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 13,335 ตันภายใน 5 ปี

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์มีความมุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน หรือ Green & Sustainable Retail ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่ได้ตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 โดยล่าสุด ได้ร่วมมือกับดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์เดินหน้าร่วมกันสร้างความยั่งยืนในภาคส่วนโลจิสติกส์ด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จำนวน 10 คัน โดยจะเริ่มนำร่องใช้ในการขนส่งกระจายสินค้าของร้านท็อปส์ เดลี่ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ตอกย้ำจุดยืนของท็อปส์ในการเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมค้าปลีกอาหารด้วยวิสัยทัศน์แห่งอนาคต

ทั้งนี้ ท็อปส์ ได้วางแผนขยายจำนวนรถเพิ่มเติมรวม 29 คัน ภายในปี 2567 ทั้งรถขนส่งอุณหภูมิปกติและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และวางแผนความร่วมมือกับพันธมิตรทลายขีดจำกัดด้านสถานีชาร์จเพื่อรองรับการขนส่งและกระจายสินค้าในระยะทางไกลในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ และเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2,667 ตันต่อปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 13,335 ตัน ในระยะเวลา 5 ปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 150,000 ต้น

นายสตีฟ วอล์กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญในการร่วมมือครั้งนี้ว่า "ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่เราเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เราได้นำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้ในการปฏิบัติการทั้งในส่วนของคลังสินค้าและการขนส่ง การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมกันของเราในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่รถพลังงานไฟฟ้าและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืนคือหัวใจหลักของการขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของดีเอชแอล ที่มีเป้าหมายหลักคือการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญตามแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ ดีเอชแอล กรุ๊ป เราร่วมกันมองหาโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่ตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน และกำหนดอนาคตของโลจิสติกส์เพื่อการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สร้างความยั่งยืนและความเป็นเลิศให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป"

กว่า 25 ปี ที่ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย และกลุ่มเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ได้สร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่ง และร่วมกันพัฒนาบริการที่เป็นเลิศเพื่อตอบสนองการเติบโตที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้วยความมุ่งมั่นต่อการสร้างนวัตกรรมและความยั่งยืน ทั้งสองบริษัทจะเดินหน้าสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการธุรกิจร้านค้าปลีกด้วยโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร

สำหรับรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งได้ในระยะทางสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้เวลาในการชาร์จพลังงานเต็มประสิทธิภาพเพียง 40 นาที และไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยดีเอชแอลได้ติดตั้งสถานีชาร์จ 3 จุดในบางนา โลจิสติกส์ แคมปัส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าไปยังท็อปส์ เดลี่ จำนวน 25 สาขา ทั่วกรุงเทพ ซึ่งตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญในกระบวนการขนส่งและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืน

"ท็อปส์ มุ่งหน้าพัฒนาองค์กรควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเชื่อว่าทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังเล็กๆ เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ได้ จึงได้สานต่อโครงการ "Small Acts Together หรือ 4 พลังเล็กสร้างสุขเพื่อโลกที่ยั่งยืน" ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1) "ดูแลฐานรากผลักดันผู้ผลิต" ผ่านการให้การสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรและ SMEs ให้เกิดการสร้างานสร้างรายได้อย่างยั่งยืน 2) "หมุนเวียน" ส่งต่ออาหารส่วนเกิน ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งและก๊าซเรือนกระจก 3) "แบ่งปัน" ความสุขและความช่วยเหลือเพื่อสังคมที่ดีขึ้น และ 4) "คิดค้นและสร้างสรรค์" การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการริเริ่มนำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบโลจิสติกส์ ถือเป็นการคิดค้นและสร้างสรรค์ในการนำเอาเทคโนโลยี เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน" นายสเตฟาน กล่าวสรุป

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ