อินกริดิออน เป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แป้งดัดแปรและวัตถุดิบอาหารของโลกมายาวนานกว่า 120 ปี จำหน่ายให้กับอุตสาหกรรม อาหาร เครื่องดื่ม กระดาษ สิ่งทอและก่อสร้าง กว่า 120 ประเทศทั่วโลก มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สารปรับแต่งเนื้อสัมผัสอาหาร (Texturiser) สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล และ Food System Solution เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้านของลูกค้า ช่วยยกระดับศักยภาพและขีดความสามารถของผู้ผลิตอาหารให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้มากยิ่งขึ้น
นาย เรย์มอนด์ เดดริก รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคอาเซียน บริษัท อินกริดิออน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในวาระครบรอบ 40 ปี ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2526 "อินกริดิออน (ประเทศไทย)" มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจสู่ความเป็นเลิศทุกด้าน ด้วยการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ มีความตั้งใจส่งมอบนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดออกสู่ตลาด และเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจอาหารให้เติบโตอย่างยั่งยืนเสมอมา
การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนถือเป็นนโยบายหลักที่อินกริดิออนให้ความสำคัญ นอกจากการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค การดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) ภายใต้แนวทางปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม จัดเป็นหนึ่งแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ อินกริดิออน (ประเทศไทย) ได้เปิดตัวโครงการ "All Life" ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมแผนงานด้านสิ่งแวดล้อมและผลักดันองค์กรให้บรรลุเป้าหมายเรื่อง ESG ภายในปี 2573
โครงการ "All Life" วางแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสำหรับโรงงานอินกริดิออนในประเทศไทย ไว้ 2 เรื่อง ดังนี้ 1) ตั้งเป้าหมายลดขยะในโรงงานเป็นศูนย์ ลดการฝังกลบ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสิ้นเชิง 2) การสร้างพลังงานทดแทนสำหรับโรงงานผลิต ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ โดยเริ่มติดตั้งที่โรงงานบ้านเขาดิน จังหวัดระยอง ในเดือนพฤศจิกายน 2566
ทั้งนี้ ในฐานะผู้นำด้านการเกษตรแปรรูปที่ยั่งยืน อินกริดิออน (ประเทศไทย) เป็นบริษัทแรกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานการทำฟาร์มมันสำปะหลังแบบยั่งยืน ผ่านโครงการริเริ่มเกษตรกรรมยั่งยืน (SAI) โดยในปัจจุบันบริษัทฯ สามารถจัดหามันสำปะหลังสายพันธุ์แวกซี่ (Waxy Tapioca) จากแหล่งที่ยั่งยืนได้ครอบคลุมถึง 100% และมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลสำเร็จในการจัดหามันสำปะหลังทั้งหมดจากแหล่งที่ยั่งยืนภายในปี 2568
"อินกริดิออน ขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นอย่างมีมาตรฐาน โดยยึดมั่นหลักจริยธรรมและคุณธรรมอย่างเข้มแข็ง ประเทศไทยเป็นแหล่งการผลิตสินค้าการเกษตรที่สำคัญ และสินค้าเกษตรเหล่านี้ก็เป็นยุทธศาสตร์สำคัญต่อการส่งออกของไทย เช่น มันสำปะหลัง ข้าว และน้ำตาล เราจึงภูมิใจในการเติบโตร่วมกันกับภาคสังคมที่สั่งสมมา ทั้งต่อคู่ค้า พันธมิตร ผู้บริโภค ตลอดระยะเวลา 40 ปี และต่อไปในอนาคต" นายเรย์มอนด์ กล่าว
นอกจากนั้น การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันกับชุมชนรอบข้าง และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาชุมชนโดยรอบมาโดยตลอด เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดทั้งให้ความช่วยเหลือทางด้านการศึกษา และความช่วยเหลือชุมชนเมื่อเกิดภาวะวิกฤตต่าง ๆ เป็นต้น
อินกริดิออน ก่อตั้งขึ้นในปี 2443 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะขยายธุรกิจสู่ประเทศไทยผ่านการเข้าซื้อกิจการบริษัท Thai Tapioca จังหวัดระยอง ในปี 2526 ปัจจุบัน อินกริดิออน (ประเทศไทย) มีโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังและวัตถุดิบอาหารทั้งหมด 4 แห่ง ในจังหวัดกาฬสินธุ์ นครราชสีมา นครปฐม และระยอง มีพนักงานรวมกันกว่า 800 คน และเครือข่ายเกษตรกรมันสำปะหลังที่แข็งแกร่งในท้องถิ่นทั่วประเทศ
บริษัทให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรม การลงทุนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านอาหารใหม่ๆ มีห้องทดลอง Idea Labs(R) มากกว่า 32 แห่ง ในประเทศไทยและทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆในปี 2560 อินกริดิออน (ประเทศไทย) เป็นผู้ผลิตแป้ง Clean Label รายแรกในประเทศไทย มีความร่วมมือ กับสถาบันพัฒนามันสำปะหลังไทย เพื่อวิจัยและพัฒนามันสำปะหลังชนิดพิเศษ เช่น มันสำปะหลังสายพันธุ์แวกซี่ (Waxy Tapioca)
บริษัทให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งด้านบุคคลและสิ่งแวดล้อม ผสมผสานศักยภาพด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อขับเคลื่อนการใช้ชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริง
ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง