สำหรับกลุ่มกองทุน KRUNGTHAI Thailand ESG Fund มีให้เลือกลงทุนถึง 3 กองทุนตามเป้าหมายการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่รับได้ ประกอบด้วย 1) กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTAG70/30-ThaiESG) (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5) เน้นการลงทุนในหุ้นที่มี SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% และตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนผสม และยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง
2) กองทุนเปิดกรุงไทย ESG50 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTESG50-ThaiESG) (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6) เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ประมาณ 50 ตัวแรกที่อยู่ในดัชนี SET ESG Index และอยู่ใน Universe ของ KTAM ซึ่งผ่านการวิเคราะห์ด้าน ESG ของ KTAM ควบคู่กัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการติตตามทั้งด้านผลการดำเนินงาน และ ESG ของบริษัทจดทะเบียนที่ได้เข้าไปลงทุนอยู่สม่ำเสมอ เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนหุ้น และยอมรับความเสี่ยงได้สูง
และ 3) กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTAG-ThaiESG) (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6) เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ที่มี SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป หรือได้รับการจัดอันดับในระดับที่สามารถเทียบเคียงได้กับระดับ A ขึ้นไป จากองค์กรหรือสถาบันอื่นที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้านความยั่งยืน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนจะเน้นการบริหารแบบเชิงรุก โดยใช้กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellite ด้วยการวางสัดส่วนการลงทุนตามสภาวะตลาดตามแนวโน้มทางเศรษฐกิจในส่วนหลัก พร้อมกับจับจังหวะการลงทุนตามมุมมองระยะสั้นถึงกลางเป็นส่วนเสริม เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการเลือกหุ้นรายตัวโดยผู้จัดการกองทุน เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนหุ้น และยอมรับความเสี่ยงได้สูง จากการลงทุนในหุ้นไทยกลุ่ม ESG และผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่บริหารแบบ Active Management เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง
"สำหรับหุ้นกลุ่ม ESG มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่อเนื่องจาก Fund Flow ที่มีแนวโน้มจะไหลเข้าสู่หุ้น ESG มากขึ้น และจากความได้เปรียบในการทำธุรกิจที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือกันในระดับโลก รวมถึงมีแนวโน้มที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้ดี อีกทั้งตลาดยังมีแนวโน้มให้ premium มากขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านผลตอบแทนที่ดีขึ้น และที่สำคัญกว่านั้น การเน้นหุ้นกลุ่ม ESG ยังช่วยบริหารความเสี่ยงได้มีประสิทธิภาพอีกด้วย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา หุ้นบางกลุ่มที่มีปัญหาด้าน ESG อย่างเช่นเหตุการณ์ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือการทุจริตภายในองค์กร ทำให้ราคาหุ้นเหล่านั้นปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และอัตราการกู้ยืมเงินของบริษัทเหล่านั้นสูงขึ้นตาม นอกจากนี้ กองทุน Thai ESG ยังเป็นการสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนไทย และเป็นช่องทางการออมพร้อมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ด้วยความร่วมมือของหลายภาคส่วนทำให้มั่นใจได้ว่า การลงทุนจะมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ได้อย่างแท้จริง" นางชวินดา กล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
ปัจจัยความเสี่ยงของกลุ่มกองทุน KRUNGTHAI Thailand ESG Fund ที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
ที่มา: บลจ.กรุงไทย