นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีพระวินิจฉัยให้จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้ารายการ Princess's Cup Thailand 2023 และทรงรับเป็นองค์ประธานอำนวยการนโยบาย วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมกีฬาขี่ม้า เพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์การแข่งขัน ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ
"การจัดงาน Princess's Cup Thailand ในปีนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 9 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-17 ธันวาคม 2566 ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด 'Enjoy Our Gender Equality Sport with Harmony of Horse and Human' ที่สะท้อนแง่มุมความพิเศษของกีฬาขี่ม้า ซึ่งเป็นกีฬาประเภทเดียวที่แข่งขันโดยไม่แบ่งแยกเพศ จึงเรียกได้ว่าเป็น 'กีฬาแห่งความเท่าเทียม' และยังเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ต้องผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับม้าด้วย โดยภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการแข่งขันเกี่ยวกับม้า การแข่งขันเกี่ยวกับสุนัข นิทรรศการ รวมทั้งกิจกรรมความบันเทิงสำหรับทุกเพศทุกวัย"
นายนารา เกตุสิงห์ เลขาธิการสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมภายในงานเพิ่มเติมว่า จะมีการแข่งขันกีฬาขี่ม้า 2 รายการใหญ่ คือ 1. FEI SEA Youth Cup 2023 ระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม 2566 ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ในการจัดแข่งขันเป็นครั้งแรก เนื่องด้วยสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดความต่อเนื่องของการแข่งขันกีฬาขี่ม้าระดับเยาวชน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงจัดการแข่งขัน FEI SEA Youth Cup ขึ้น ในปีที่ไม่มีการแข่งขันซีเกมส์ หรือกีฬาขี่ม้าไม่ได้
ถูกบรรจุในซีเกมส์ และรายการ Princess's Cup Thailand (ระหว่างวันที่ 11 - 17 ธันวาคม 2566) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา แบ่งเป็น การแข่งขัน 5 ประเภท ได้แก่ ศิลปะบังคับม้า, การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, อีเวนท์ติ้ง, สุดยอดผู้ดูแลม้า และ สุดยอดช่างเกือกม้า
อีกกิจกรรมสำคัญคือการแข่งขันเกี่ยวกับสุนัข ซึ่งในการแถลงข่าวครั้งนี้มีการแสดงโชว์ของสุนัขทรงเลี้ยงทั้งหมด 4 สุนัข ได้แก่ สุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย คุณโคโม่ และ คุณนาโกย่า , สุนัขพันธุ์ปาปิยอง คุณบัตเตอร์ฟลายและสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์ คุณเอ็มไอ6 เพื่อสร้างการรับรู้ของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องคือ 1. การแข่งขันสุนัขใช้งานสากล เป็นการทดสอบความสามารถเพื่อประเมินสุนัขที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงานอารักขา 2. การแข่งขันประกวดสุนัขสวยงามทุกสายพันธุ์ และ 3. งานวิ่งกับสุนัข (Dog Fun Run)
ภายในงานยังมีนิทรรศการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. พระจริยวัตรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญ และทรงส่งเสริมกีฬาขี่ม้าในทุกมิติ ผ่านโครงการ อาทิ โครงการบ้านพักม้าชรา ด้วยทรงห่วงใยสุขภาพและความเป็นอยู่ของม้าหลังปลดประจำการ, โครงการอาชาบำบัด การใช้ม้ามาช่วยในการบำบัดกลุ่มเด็กพิเศษ ทั้งด้านร่างกาย และอารมณ์, และโครงการปุ๋ยมูลม้า 2. ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า สถานพยาบาลม้าที่มีความทันสมัย มีขีดความสามารถด้านการรักษาขั้นสูง พร้อมด้วยเครื่องมือทางการสัตวแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ 3. โครงการผ้าไทย เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยให้ทันสมัยตามความต้องการในยุคปัจจุบันกับทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงจัดแสดงข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน อาทิ การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์, พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ สาธารณรัฐตุรกี, การดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ ในการยื่นขอคืนสถานภาพปลอดกาฬโรคในม้า (AHS) อย่างเป็นทางการ
และท้ายสุดคือ Flea Market และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการเปิดพื้นที่พบปะสังสรรค์บรรยากาศดีกลางกรุง ให้ประชาชนได้มาชอปปิ้งสินค้าสไตล์วินเทจ ชิมอาหารอร่อย ถ่ายรูปเช็คอิน ในวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 และเพิ่มเติมความพิเศษ ด้วยการแสดงดนตรีในสวน บรรเลงบทเพลงไพเราะ โดยวง Royal Bangkok Symphony Orchestra (RBSO) ในวันที่ 15 ธันวาคม อีกด้วย
จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ มาเติมเต็มความสุขในช่วงส่งท้ายปี กับการเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาขี่ม้า การประกวดและแข่งขันสุนัข และเลือกซื้อสินค้าภายในงาน ระหว่างวันที่ 7-17 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่ 09.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามแข่งขันกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า (BTS สนามเป้า) กรุงเทพฯ เข้างานฟรี!
ที่มา: โฟร์ฮันเดรท