นายวชิระชัย คูนำวัฒนา กล่าวว่า "การได้รับเกียรติให้เข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรบริษัท enVerid ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ดีอย่างยิ่งในการได้นำเสนอเทคโนโลยีหนึ่งเดียวที่มีประสิทธิภาพทั้งการช่วยลดปัญหา Global Boiling เนื่องจากคุณสมบัติหลักของ SCG Air Scrubber คือสามารถช่วยลดการใช้พลังงานจากระบบปรับอากาศในอาคารลงได้สูงสุดถึง 30% และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างน้อย 8 Kg CO2/sq.m/year นอกจากนี้ระบบ SCG Air Scrubber ยังสามารถดูดซับก๊าซพิษและบำบัดอากาศเสียในอาคารได้ ถือเป็นการดูแลคุณภาพอากาศที่ปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัย ไปพร้อมกับการทำให้อาคารใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังเป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถทำได้ในปัจจุบัน
ซึ่งในอนาคต SCG และ enVerid มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนตามแนวทางของสากล ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีที่สุด" นายวชิระชัย กล่าวทิ้งท้าย
โดยระบบ SCG Air Scrubber คือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC System) โดยการบำบัดมลพิษอากาศภายในอาคาร ช่วยป้องกันไม่ให้ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC System) ชำรุด เสียหาย และลดภาระการทำความเย็นที่ต้องดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาเกินความจำเป็น ตลอดจนสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในอาคารให้มีค่าไม่เกิน 750 ppm โดยอ้างอิงจากปริมาณที่อนุญาตตามมาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQP ASHRAE Standard 62.1) ทั้งนี้ ระบบ SCG Air Scrubber ยังสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้อย่างน้อย 8 Kg CO2/sq.m/year ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมา SCG Air Scrubber ถูกรับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 นวัตกรรมที่มีความโดดเด่นในสาขา Smart Heat & Air จาก The Clean Fight 2020 นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรที่รับการสนับสนุนจากหน่วยงานวิจัยและพัฒนา พลังงานแห่งรัฐนิวยอร์ก New York State Energy Research & Development (NYSERDA) มาแล้วอีกด้วย
ที่มา: เอสซีจี