กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ซี.ไอ.กรุ๊ป
CIG ปลื้มผลประกอบการไตรมาสแรกสุดเซอร์ไพรส์ โชว์กำไร 22.834 ลบ.เพิ่มขึ้น 526.79% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน และสูงกว่ากำไรตลอดทั้งปี 2549 ที่ทำได้ 15.16 ลบ. “ธีระ พุ่มเสนาะ” แจงเป็นเพราะสามารถปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนใหม่ที่ปรับขึ้นได้ พร้อมปรับแผนบริหารจัดการภายในและบริหารหนี้สินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันใช้นโยบายเชิงรุกขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดันรายได้กระฉูด วางเป้าหมายปีนี้มีรายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท
นายธีระ พุ่มเสนาะ กรรมการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2550 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 22.834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 526.79% เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2549 ที่มีกำไรสุทธิ 3.643 ล้านบาท และเป็นตัวเลขที่สูงกว่ากำไรตลอดทั้งปี 2549 ที่ทำได้ 15.16 ล้านบาท ทั้งนี้มีรายได้รวมทั้งสิ้น 335.573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น95.371 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2549 ที่มีรายได้รวม240.202ล้านบาท ในขณะเดียวกันอัตรากำไรขั้นต้นก็ปรับตัวดีขึ้นไปในทิศทางเดียวกันด้วย โดยปรับขึ้นจากระดับ 10.32% มาอยู่ที่ 12.84%
สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของ CIG ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในครั้งนี้มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.บริษัทสามารถปรับราคาขายสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ตามราคาวัตถุดิบที่พุ่งขึ้นได้ 2.สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ต้นทุนปรับลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมกว่าเดิม นอก จากนี้บริษัทยังสามารถดูแลเรื่องการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการติดตามหนี้สินที่ใช้นโยบายเคร่งครัดมากขึ้น จึงสามารถควบคุมหนี้สินไม่ให้กลายเป็นหนี้สูญ และอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้เช่นเดียวกัน และ 3.บริษัทปรับมาใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้นในการขยายธุรกิจ โดยสามารถผลักดันให้ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศให้สามารถขยายตัวไปได้พร้อม ๆ กัน ซึ่งจะผลักดันให้รายได้เติบโตอย่างโดดเด่น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"จุดเปลี่ยนของ CIG เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริงตามต้นทุนที่ค่อนข้างผกผันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะมีการปรับราคาขายสินค้าแล้ว ยังได้ควบคุมระบบการจัดการภายใน และการบริหารหนี้ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย รวมทั้งการใช้นโยบายเชิงรุกขยายตลาดพร้อมกันทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องกับผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว ไม่ใช่เฉพาะไตรมาสแรกเท่านั้น"
นายธีระ กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2550 ว่ารายได้ของบริษัทมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยในช่วงดังกล่าวถือเป็นฤดูกาลขายของเครื่องปรับอากาศในประเทศ ผนวกกับตลาดต่างประเทศที่คาดว่าจะเริ่มมีการส่งคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากพันธมิตรทางธุรกิจ
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2/2550 คาดว่าน่าจะขยายตัวดีต่อเนื่อง เพราะตลาดในประเทศเป็นช่วง peek ของธุรกิจ ซึ่งเป็นหน้าร้อนและสภาพอากาศในปีนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก มีงานโครงการเข้ามามากขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศของ CIG ก็ เริ่มมีออเดอร์เข้ามา โดยผ่านทาง เอวีวี ซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรทางธุรกิจและเป็นลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปบุกเบิกตลาดตะวันออกกลาง อาทิ ดูไบ การ์ตาร์ บาร์เรนห์ ตอนนี้กำลังไปได้ดี โดยเฉพาะที่ดูไบ เนื่องจากผู้บริหารของรัฐ กำลังผลักดันดูไบ ให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการท่องเที่ยว การก่อสร้างสาธารณูปโภค และอาคารสถานที่สำคัญทั้งโรงแรม โรงพยาบาล ตลอดจนอาคารทางธุรกิจต่างๆ ที่ผุดขึ้นต่อเนื่อง
“จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้คาดว่าปีนี้รายได้รวมจะสามารถขึ้นสู่ระดับ 2,000 ลบ.ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยสัดส่วนรายได้ขณะนี้ 70% มาจากตลาดในประเทศ และอีก 30% จะมาจากตลาดต่างประเทศ” นายธีระกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดได้ที่:
คุณสมร ภู่อิ่ม
โทร. 081-9844814 หรือ 02-5449396