วว. /บริษัทบีจีซี พัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง ประยุกต์ใช้สาหร่ายขนาดเล็กดักจับคาร์บอนจากกระบวนการหลอมแก้ว แปรรูปอุตสาหกรรมอาหาร

พุธ ๑๓ ธันวาคม ๒๐๒๓ ๒๒:๔๙
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และบริษัทบีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจีซี (BGC) ร่วมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้สาหร่ายขนาดเล็กในการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ จากกระบวนการหลอมแก้วและการแปรรูปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 5 อาคาร Admin วว. เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี

ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี โดยจะดำเนินงานร่วมกันตามนโยบาย BCG Model ตั้งแต่กระบวนการเลี้ยงสาหร่าย การเพิ่มผลผลิต กระบวนการเก็บเกี่ยว ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสาหร่ายเป็นส่วนประกอบ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้สาหร่ายขนาดเล็ก ในการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการหลอมแก้วและการแปรรูปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหารและอื่นๆ ต่อไป ภายใต้กรอบดำเนินงานการใช้พื้นที่ร่วมกัน การอบรมพัฒนาความรู้/ฝึกปฏิบัติงาน ความร่วมมือวิจัยและพัฒนา การแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการ การเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของ วว. รวมทั้งการสร้างและขยายเครือข่ายกับสถาบันการศึกษาและบริษัทชั้นนำทั่วโลก

"... เป้าหมายสำคัญของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวง อว. คือ การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม อันเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม นวัตกรรม และขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศ ไปใช้ในการสนับสนุน ส่งเสริม และร่วมดำเนินการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในเชิงบูรณาการ เพื่อพัฒนาภาคเศรษฐกิจควบคู่กับสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ...หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งเป็นก้าวแรกในการทำงานร่วมกันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป..." ผู้ว่าการ วว. กล่าว

นายศิลปะชัย วัฒนาเกษตร กรรมการ บริษัทบีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ว ในเครือ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) มีความมุ่งมั่นตั้งใจดำเนินธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า และมั่นคง โปร่งใส ด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี ปัจจุบันความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศและทั่วโลกนั้นมีค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค และอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ใช้บรรจุภัณฑ์ด้วยกันทั้งสิ้น บีจีซีจึงเดินหน้าต่อยอดและขยายธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรอย่างแท้จริง ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ใส่ใจในคุณภาพ และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

"...มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ วว. ซึ่งมุ่งการทำงานวิจัยที่มีดีมานด์ ไม่ใช่วิจัยขึ้นหิ้ง และมุ่งเน้นความยั่งยืน ที่เป็นแนวทางการดำเนินองค์กรที่ใกล้เคียงกัน วันนี้จะเป็นก้าวแรกและเป็นก้าวที่มั่นคงของบริษัทบีจีฯ และ วว. ผลจากการวิจัยพัฒนาร่วมกันที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นั้น จะนำไปสู่การขยายผลในการร่วมกันทำงานในสาขาอื่นๆ ต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ ..." กรรมการ บริษัทบีจีฯ กล่าว

โอกาสนี้ คณะผู้บริหาร บริษัทบีจีฯ ได้เยี่ยมชมภารกิจ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่ายของ วว. (Algal Excellent Center) ด้วย โดย วว. เป็นหน่วยงานแห่งเดียวในประเทศที่มีการดำเนินงานด้านสาหร่ายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดตั้งคลังเก็บรักษาสายพันธุ์สาหร่าย (TISTR Algae Culture Collection, TISTR ACC) ซึ่งในปัจจุบันมีการรวบรวมและเก็บรักษาสายพันธุ์สาหร่ายน้ำจืดขนาดเล็ก (freshwater microalgae) จากแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศพร้อมทั้งจัดทำฐานข้อมูล กว่า 1,000 สายพันธุ์ มีห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยง วิเคราะห์ และทดสอบ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ (ศคช.) ที่สำคัญและโดดเด่น คือ วว. มีระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่ายระดับขยายกลางแจ้งต้นแบบ ตั้งแต่ขนาด 100-40,000 ลิตร เป็นระบบการเพาะเลี้ยงแบบต่อเนื่องและครบวงจร ปริมาตรรวม 400,000 ลิตร

วว. ดำเนินงานด้านสาหร่าย ดังนี้ 1) ด้านอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสาหร่ายอย่างยั่งยืนโดยการจัดตั้งคลังสาหร่าย วว. ณ เทคโนธานี เป็นการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention Biological Diversity, CBD) ที่ว่าด้วยการอนุรักษ์นอกถิ่นกำเนิด (ex situ conservation) และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน (sustainable utilization) 2) ด้านการวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคเอกชน และ 3) ด้านงานบริการ ได้แก่ การให้บริการสายพันธุ์สาหร่าย การจัดจำแนกชนิดของสายพันธุ์สาหร่าย การตรวจนับจำนวนเซลล์สาหร่าย การให้บริการตรวจวิเคราะห์สารพิษไมโครซิสตินจากสาหร่าย การให้บริการฝึกอบรมการเพาะเลี้ยงสาหร่าย และการให้บริการที่ปรึกษา

ที่มา: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version