ดร. บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า "ปัจจุบันอาร์ทีบีฯ มีการขยายประเภทสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญก็คือ เราเน้นเลือกสรรสินค้าที่เป็นเทรนด์และแบรนด์ของอนาคต นอกจากนั้นแบรนด์ Cricut ยังเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และมียอดขายสูงในอเมริกา ออสเตรเลีย ประเทศในแถบยุโรป รวมถึงประเทศในแถบเอเชีย อย่างเช่น สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์อีกด้วย เราจึงมั่นใจว่า Cricut จะเป็นแบรนด์ที่เพิ่มยอดขายให้กับเราในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัวได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากสินค้าเราจะทำมาเพื่อผู้บริโภคทั่วไปแล้ว สินค้าเราก็ยังสามารถตอบโจทย์ SME ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจอีกด้วย"
ด้านคุณวิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า "แบรนด์ Cricut เป็นโซลูชั่นที่ครบสำหรับผู้บริโภค เพราะมี Ecosystem ที่ครบตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะมีทั้งแอปพลิเคชั่น Cricut Design Space ที่ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างง่ายดาย หรือดาวน์โหลดผลงานที่มีอยู่แล้วมาใช้ได้ภายใน 1 คลิก ที่สำคัญทุกคนสามารถสร้างผลงานได้แบบไร้กังวล เพราะ Cricut มีวัสดุและอุปกรณ์เสริมอีกมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้และสร้างสรรค์ชิ้นงานได้แบบไม่จำกัด จึงทำให้การทำงานกับเครื่องของ Cricut มีความสะดวกมาก และที่สำคัญ ยังมีทีม Brand Ambassador ที่จะมาคอยให้ความรู้ในการสร้างสรรค์ผลงานผ่านเครื่อง Cricut ไม่ว่าจะเป็นการทำ Demo หน้าร้าน หรือการทำคลิปออนไลน์ รวมถึง Facebook Group ที่สมาชิกสามารถมาโชว์ผลงาน รวมถึงแลกเปลี่ยน สอบถามข้อมูลกันได้อีกด้วย"
โดยการเปิดตัวครั้งนี้ประกอบไปด้วยเครื่องตัดอัจฉริยะ 3 รุ่น ได้แก่ Cricut Joy, Cricut Explore3 และ Cricut Maker3 ตอบโจทย์ผู้ที่ชอบการทำงานคราฟต์ทุกระดับ ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
- Cricut Joy เครื่องตัดอัจฉริยะขนาดพกพา น้ำหนักเบาเพียง 1.75 กก. สามารถตัดวัสดุต่างๆได้กว่า 50 ชนิด เช่น Iron-On (สติ๊กเกอร์รีดร้อน), กระดาษการ์ด, ไวนิล, กระดาษ และ Smart Materials สามารถตัดชิ้นงานที่ความยาวสูงสุด 4 ฟุต (1.2 ม.) หรือตัดชิ้นงานแบบซ้ำๆได้ที่ความยาวสูงสุด 20 ฟุต (6 ม.) ในครั้งเดียว (เฉพาะ Smart Materials ของ Cricut) รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ ราคา 6,900 บาท
- Cricut Explore3 เครื่องตัดอัจฉริยะที่สามารถตัดวัสดุต่าง ๆ ได้มากกว่า 100 ชนิด เช่น กระดาษการ์ด, ไวนิล, Iron-On (สติ๊กเกอร์รีดร้อน), กระดาษที่ติดกากเพชร, Bonded fabric และ Smart Materials สามารถตัดชิ้นงานที่ความยาวสูงสุด 12 ฟุต (3.6 ม.) ในครั้งเดียว (เฉพาะ Smart Materials ของ Cricut) สามารถปรับเปลี่ยนใบมีดได้มากถึง 6 ชนิด รองรับการเชื่อมต่อผ่านสาย USB และไร้สายผ่านบลูทูธ ราคา 13,900 บาท
- Cricut Maker3 สุดยอดเครื่องตัดอัจฉริยะที่สามารถตัดวัสดุต่าง ๆ ได้มากกว่า 300 ชนิด ทั้งกระดาษการ์ด, ไวนิล, Iron-On (สติ๊กเกอร์รีดร้อน), กระดาษที่ติดกากเพชร, Bonded fabric, หนัง, อะคริลิก และ Smart Materials ให้คุณทำงานคราฟต์ได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งตัด เขียน ปั๊มจม และสลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตัดชิ้นงานที่ความยาวสูงสุด 12 ฟุต (3.6 ม.) ในครั้งเดียว (เฉพาะ Smart Materials ของ Cricut) รองรับการเชื่อมต่อผ่านสาย USB และไร้สายผ่านบลูทูธ ราคา 17,500 บาท
นอกจากนี้ Cricut ยังมีเครื่องรีดร้อน Cricut EasyPress Mini และ Cricut EasyPress2 ที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานบนวัสดุต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ
- Cricut EasyPress Mini เครื่องรีดร้อนขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีรูปทรงเฉพาะหรือชิ้นงานขนาดเล็ก เช่น รองเท้า และตุ๊กตา สามารถปรับความร้อนได้ 3 ระดับ ราคา 2,590 บาท
- Cricut EasyPress2 เครื่องรีดร้อนแบบไม่ต้องใช้แรงกด สามารถตั้งเวลาและปรับอุณหภูมิตามวัสดุที่รีดได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการพิมพ์ลายลงบนเสื้อยืด กระเป๋าผ้า ปลอกหมอน ผ้ากันเปื้อน และงานที่ต้องใช้ร่วมกับ Iron-on และ Infusible Ink ราคา 7,290 บาท
ทางด้านคุณพฐา รัตนวิศิษฎ์กุล Head of Omni Commercial & Marketing บริษัท บีทูเอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "สำหรับบีทูเอสนั้น แบรนด์ Cricut ถือว่าเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ของร้านเราได้เป็นอย่างดี เพราะแบรนด์ Cricut นั้นมีสินค้าที่สามารถช่วยให้ผู้บริโภคสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือ งานศิลปะ หรืองานตกแต่งต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการเป็นแหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน"
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร สามารถหาซื้อเครื่องตัดอัจฉริยะและเครื่องรีดร้อนทั้ง 5 รุ่น รวมถึงวัสดุและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ จากแบรนด์ "Cricut" ได้แล้ววันนี้ที่ B2S สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ B2S สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว B2S สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า โซนดิจิตอลแล็บ สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 2 หรือทางออนไลน์ได้ที่ Shopee : Cricut Offical Store และ Lazada : Cricut Flagship Store หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง Line OA : @cricut_th ทาง Facebook Page : Cricut TH และ Facebook Group: Cricut Club Thailand
ที่มา: อาร์ทีบี เทคโนโลยี