"บริษัทฯ ภาคภูมิใจมากที่มีส่วนร่วมช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และมีขีดความสามารถทางการแข่งขันเพิ่มขึ้น มุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งมีส่วนสำคัญซีพีเอฟและผู้ประกอบการ SMEs เติบโตไปด้วยกัน และขอขอบคุณทุกบริษัทที่เชื่อมั่นร่วมมือกับซีพีเอฟด้วยดีมาตลอด ความสำเร็จของ SMEs รุ่นแรกเป็นต้นแบบช่วยจุดประกายให้กับคู่ค้า SMEs รายอื่นๆ ต่อไป" นายประสิทธิ์กล่าว
ด้านนายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟริเริ่มโครงการ SMEx ขึ้นเป็นปีแรกโดยมีคู่ค้า SMEs เข้าร่วม 10 บริษัท เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพจำนวน 16 โครงการ โดยนำความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของซีพีเอฟมาช่วยส่งเสริมพัฒนาศักยภาพคู่ค้า SMEs แบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตามแนวทาง Lean Six Sigma การศึกษาดูงานในสถานประกอบการของซีพีเอฟที่เน้นใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลกในการผลิตอาหาร พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรของซีพีเอฟช่วยประเมินงานเพื่อร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อคิดและจัดทำโครงการ โดยมีซีพีเอฟเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาให้คำแนะนำจนจบโครงการ เพื่อร่วมพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ด้านความปลอดภัย ด้านบริหารพลังงานและสิ่งแวดล้อม และด้านระบบดิจิทัล
โครงการ SMEx เป็นโครงการหนึ่งภายใต้โครงการ "Partner to Grow เติบโต เคียงข้าง อย่างยั่งยืน" เป็นการผนึกกำลังกับหน่วยงานภายในองค์กรมาข่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอย่างรอบด้านให้กับ "คู่ค้าธุรกิจ" โดยมุ่งเน้นช่วยกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เป็นลำดับแรก ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการ Faster Payment ที่ช่วยเหลือคู่ค้า SMEs มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น สามารถรักษากิจการในช่วงวิกฤติโควิด-19 และโครงการ CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง เคียงข้างคู่ค้า ช่วยให้คู่ค้าขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
นายไพศาล สมศรี เจ้าของบริษัท ยิ่งไพศาลการเกษตร จำกัด ผู้จัดหากระเทียม ผักชีสดสำหรับการผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ดีใจที่ได้ร่วมโครงการ SMEx เพราะความรู้และทักษะที่ได้รับจากซีพีเอฟมีผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการขนาดเล็ก และเกษตรกรในภาคเหนือประมาณ 2 พันราย สามารถนำความรู้และคำแนะนำไปใช้จริง ช่วยลดสารเคมี เพิ่มผลผลิต และรายได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วย
นางสาวณิชยา น่วมเจิม เจ้าของบริษัท ณิชาฟาร์ม จำกัด ผู้จัดหาน้ำมะนาว กล่าวว่า ขอขอบคุณซีพีเอฟที่ดำเนินโครงการสนับสนุนคู่ค้า SMEs ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินสามารถรักษาการดำเนินกิจการได้จากการร่วมโครงการ Faster Payment ของซีพีเอฟ และโครงการ SMEx ช่วยให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการเพิ่มผลผลิต ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย การจัดการของเสีย และยกระดับการดำเนินงานที่ส่งผลให้ตลอดห่วงโซ่การผลิตน้ำมะนาวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนงาน
ที่มา: เจริญโภคภัณฑ์อาหาร