พรีเมียร์ลีกรณรงค์ให้แฟนฟุตบอลชาวไทยยุติการรับชมเนื้อหาฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ละเมิดลิขสิทธิ์

อังคาร ๑๙ ธันวาคม ๒๐๒๓ ๑๕:๔๘
แคมเปญ "Boot Out Piracy" (ต่อต้านสตรีมมิ่งละเมิดลิขสิทธิ์) กลับมาอีกครั้งเพื่อย้ำเตือนแฟน ๆ ถึงความเสี่ยงของสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมาย

นักเตะพรีเมียร์ลีกจากสโมสรต่าง ๆ รวมถึงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและลิเวอร์พูล ร่วมกันเป็นแนวหน้าในแคมเปญ "Boot Out Piracy" รอบล่าสุดของพรีเมียร์ลีก เพื่อสร้างความตระหนักให้แฟนฟุตบอลชาวไทยทราบถึงความเสี่ยง และผลกระทบเชิงลบจากการสตรีมมิ่งเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย

วันนี้ได้มีการเปิดตัวแคมเปญเป็นฤดูกาลที่สองในประเทศไทย โดยแคมเปญในปีนี้ประกอบด้วยนักเตะดังจากพรีเมียร์ลีก ได้แก่ คาเซมิโร่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) , ดิโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล), ฆูลิโอ เอ็นชิโซ่ (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน) , อาบดูลาย ดูกูเร่ (เอฟเวอร์ตัน) และ ไทโว อโวนิยี่ (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์)

ในวิดีโอที่จะออกอากาศผ่านช่องทางดิจิทัลนี้ เหล่านักเตะจะกล่าวถึงประเด็นเน้นย้ำว่าผู้ที่เข้าถึงเนื้อหาพรีเมียร์ลีกผ่านเว็บไซต์หรืออุปกรณ์สตรีมมิ่งที่ไม่เป็นทางการ จะทำให้ตนเองเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึงมัลแวร์และแรนซัมแวร์ที่เป็นอันตรายได้อย่างไร สิ่งนี้ก่อให้เกิดอันตรายจากการหลอกลวง การโจรกรรมข้อมูลการฉ้อโกง และผู้ชมกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะได้รับชมการแข่งขันผ่านการสตรีมที่ไม่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพต่ำ

ในรายงานที่เผยแพร่โดย Digital Citizens Alliance เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ในหัวข้อ "Giving Piracy Operators Credit" พบว่า 44 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่เข้าถึงเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์เคยประสบกับกรณีการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล รายงานฉบับเดียวกันนี้ยังพบว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมละเมิดลิขสิทธิ์เคยเผชิญกับมัลแวร์ ในขณะที่ผู้ใช้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมละเมิดลิขสิทธิ์เคยเผชิญกับมัลแวร์เพียง 9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ศาสตราจารย์พอล วัตเตอร์ที่ปรึกษาและนักวิจัยชั้นนำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กล่าวว่า "ในปี 2022 เกิดความเสียหายจากการโจมตีของมัลแวร์มากเป็นประวัติการณ์ ผู้บริโภคควรทราบว่าเว็บไซต์และแอปที่สตรีมเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เป็นหนึ่งในต้นตอหลักของการโจมตีเหล่านี้

"แม้ว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอาจช่วยผู้บริโภคได้ แต่ก็ไม่สามารถรู้เท่าทันมัลแวร์ชนิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในทุกวัน ทางแก้ที่ดีที่สุดคือการป้องกัน โดยหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่เป็นโฮสต์และเผยแพร่มัลแวร์" พรีเมียร์ลีกได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในประเทศทั่วเอเชียและทั่วโลกเพื่อดำเนินคดีทางอาญากับผู้ให้บริการเว็บไซต์และผู้จัดหาอุปกรณ์สตรีมมิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและกรมสอบสวนคดีพิเศษของประเทศไทยเพื่อดำเนินการเมื่อมีการส่งต่อคดีอาญา

พรีเมียร์ลีกชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทยสำหรับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพุ่งเป้าเพื่อจัดการกับกลุ่มคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์กีฬาในประเทศไทย นอกเหนือจากการขัดขวางการสตรีมที่ผิดกฎหมายของพรีเมียร์ลีกและเนื้อหาอื่น ๆ แล้ว รัฐบาลไทยยังจำกัดการเข้าถึงการดำเนินกิจกรรมการพนันที่ไม่มีใบอนุญาตและไม่ได้รับการควบคุม ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อผู้บริโภค

เพื่อผลักดันความพยายามเหล่านี้ พรีเมียร์ลีกกำลังร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อดำเนินแผนงานบล็อกเว็บไซต์

เควิน พลัมบ์ ที่ปรึกษาทั่วไปของพรีเมียร์ลีกกล่าวว่า "เรารู้ว่าแฟนฟุตบอลในประเทศไทยและทั่วเอเชียให้ความสนใจกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมากเพียงใด เราจะยังคงเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากการรับชมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกผ่านการสตรีมที่ผิดกฎหมาย ผ่านแคมเปญ 'Boot Out Piracy'

"ผู้ที่รับชมการสตรีมผิดกฎหมายไม่เพียงพลาดประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์อีกด้วย การเข้าถึงเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์นั้นทำให้ผู้ใช้เผชิญความเสี่ยงจากอาชญากรที่อาจใช้หลากหลายวิธีการเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ชม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหามากมาย รวมถึงการฉ้อโกงและการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล

"คำแนะนำที่เราอยากบอกแฟนฟุตบอลชาวไทย คือ อย่าทำให้ตนเองตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดผ่านทางพันธมิตรการถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการของเราเท่านั้น

"นอกเหนือจากการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับอันตรายของสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมายแล้ว เรากำลังทำงานอย่างหนักกับหน่วยงานในประเทศเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์และการสตรีมที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายอุปกรณ์สตรีมมิ่งผิดกฎหมาย"

ในประเทศไทย พรีเมียร์ลีกทำงานร่วมกับทรู วิชั่นส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรการถ่ายทอดสดในประเทศสำหรับแคมเปญ "Boot Out Piracy"

คุณสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหารบริษัททรูวิชั่นส์ กล่าวว่า "เราขอขอบคุณพรีเมียร์ลีกที่มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย นอกเหนือจากการทำงานของทรู วิชั่นส์ ที่ร่วมกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายของไทยแล้ว แคมเปญต่าง ๆ อย่าง "Boot Out Piracy" ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยสร้างความตระหนักของผู้บริโภคเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากแหล่งข้อมูลผิดกฎหมาย และทำให้ความต้องการในการบริโภคสิ่งที่ผิดกฎหมายลดลงอีกด้วย

"แฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกชาวไทย เป็นหนึ่งในแฟนฟุตบอลที่หลงใหลการแข่งขันนี้มากที่สุดในโลก และในฐานะพันธมิตรการถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการ เป้าหมายของเราคือการสนับสนุนให้แฟนฟุตบอลทุกคน สามารถเข้าถึงเนื้อหาระดับโลกได้ผ่านแพ็กเกจที่หลากหลาย ผู้บริโภคไม่มีเหตุผลใดที่ต้องนำตนเองไปเสี่ยงอันตรายโดยการมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย ในเมื่อพวกเขาสามารถรับชมการแข่งขันในคุณภาพที่ดีที่สุดในราคาที่จับต้องได้ผ่านทรู วิชั่นส์"

แคมเปญนี้จะเผยแพร่ผ่านทั้งช่องทางการถ่ายทอดสด สื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ และ YouTube ในประเทศไทย ตลอดจนสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และเวียดนาม

ที่มา: เอเดลแมน (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ