นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า เวียดนาม ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีในอนาคต โดยคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวและความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น ล่าสุด บริษัทฯ จึงเดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่โรงงาน Prime Dai Loc ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานในเครือ Prime Group ตั้งอยู่ที่จังหวัดกว๋างนาม ใกล้กับเมืองดานัง ภาคกลางของประเทศเวียดนาม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าใหม่ในกลุ่ม "กระเบื้องเซมิพอร์ซเลน" ที่กำลังได้รับความนิยม เพื่อรักษาศักยภาพความเป็นผู้นำอันดับ 1 ธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในเวียดนาม รวมถึงการขยายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ คาดว่าจะใช้งบลงทุนรวม 60,067 ล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 89.2 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2567
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดกระเบื้องปูพื้นและบุผนังของเวียดนาม มีแนวโน้มความต้องการใช้กระเบื้องพอร์ซเลน และกระเบื้อง
เซมิพอร์ซเลนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่น อาทิ ลวดลายที่สวยงาม พื้นผิวที่แข็งแรงทนทาน อัตราดูดซึมน้ำต่ำ ฯลฯ เนื่องจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ และเจ้าของที่อยู่อาศัย ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้กระเบื้องที่มีความแข็งแรง สวยงาม และมีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความโดดเด่นและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่โครงการ ตลอดจนสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
นอกจากโครงการลงทุนดังกล่าว Prime Group ในเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจกระเบื้องปูพื้นและบุผนังในประเทศเวียดนาม ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ บริษัท จระเข้ เวียดนาม จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำในการผลิตสินค้านวัตกรรมเพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งครบวงจร ในกลุ่มสินค้ากาวซีเมนต์และกาวยาแนว ภายใต้แบรนด์จระเข้ แก่ผู้บริโภคในเวียดนามผ่านเครือข่ายร้านผู้แทนจำหน่ายของ Prime Group ที่แข็งแกร่งกว่า 120 รายในปัจจุบัน
จากความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจครั้งนี้ จะเพิ่มศักยภาพแก่ร้านผู้แทนจำหน่ายของ Prime Group ในเวียดนาม มีสินค้าที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านการตกแต่งและซ่อมแซมกระเบื้องในอาคารและที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ล่าสุด Prime Group ได้รับรางวัล Corporate Sustainability Index (CSI) ประจำปี 2023 ที่มอบให้แก่บริษัทท็อป 100 ในประเทศเวียดนามที่มีผลการดำเนินงานที่ดี ดำเนินธุรกิจอย่างมีบรรษัทภิบาล มุ่งเน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม แรงงานและรับผิดชอบต่อสังคม แสดงถึงความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่กับการให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย