ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. มีนโยบายที่มุ่งส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาด้านการศึกษา การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ให้เกิดการสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ นำการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวด้านโดรน และนวัตกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์การสั่งงานโดรนแปรอักษร ที่สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ กล่าวได้ว่า "โดรนแปรอักษร" ฝีมือคนไทย เป็นการยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีของคนไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นทัดเทียมกับเทคโนโลยีของต่างประเทศ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันประกวดออกแบบแผนการบินโดรนแปรอักษรชิงถ้วยพระราชทานฯ ขึ้น
นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวว่า ตามที่สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ได้รับการสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมจาก วช. ในการจัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนแปรอักษรเพื่อประยุกต์สู่การใช้งานขึ้นเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเกี่ยวกับ "โดรน" ให้กับนักเรียน/นักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ นั้น จึงได้มีการจัดการแข่งขันประกวดออกแบบแผนการบินโดรนแปรอักษร (Drone Light Show Pattern Design) ขึ้น เพื่อเพิ่มทักษะในเชิงปฏิบัติการให้แก่เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการจัดแสดงโดรนแปรอักษรให้มากขึ้น ต้องขอชื่นชมผลงานของทุกทีมที่เข้าร่วมการประกวดในปีนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจ ที่ทางสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมสร้างสรรค์ ส่งเสริมพัฒนาซอฟท์แวร์ เพื่อให้เป็นนวัตกรรมโดรนในอนาคต ซึ่งปัจจุบันโดรน ถือเป็นเศรฐกิจอันดับ 9 ต่อไปจะเป็นทรัพยากรอันสำคัญของประเทศชาติ จากโจทย์การแปรอักษร ปีหน้า 2567 เราคาดว่าจะเพิ่มสนาม และจำนวนโดรนจาก 300 ลำ เป็น 500 ลำ เพราะมีผลงานโดรนของไทย ที่ไปคว้ารางวัลมาหลายประเทศ อยากจะมาถ่ายทอดการเขียนโปรแกรมโดรน ทั้งเรื่องของดร็อปของ โดรนดับไฟป่า โดรนการเกษตร โดรนทำแผนที่ หรือโดรนค้นหา เป็นต้น
สำหรับการแข่งขันประกวดออกแบบแผนการบินโดรนแปรอักษร (Drone Light Show Pattern Design) มีจุดประสงค์เพื่อสร้างเวทีให้เยาวชนที่ผ่านการอบรมได้แสดงศักยภาพของตนเอง และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ผ่านการอบรมสามารถนำความองค์ความรู้การใช้ software ที่ได้รับมาพัฒนาต่อยอด เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาด้านการศึกษาให้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับอากาศยานโดรนต่อไป ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมการแข่งขัน 2 ครั้ง คือ 1) รอบคัดเลือก ในวันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยการส่งผลงานเข้ามาประกวดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อคัดเลือกให้เหลือผู้ผ่านเข้ารอบการแข่งขันสนามชิงชนะเลิศ จำนวน 50 ทีม และ 2) รอบตัดสินชิงชนะเลิศ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 17 ธันวาคม 2566 โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รอบ คือ รอบคัดเลือก รอบ 24 ทีมสุดท้าย และรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีทีมเข้ารอบทั้งหมด 12 ทีม บรรยากาศภายในงานเนืองแน่นไปด้วย ข้าราชการจากส่วนต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ มาร่วมชมและร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ นอกจากนี้มีการแสดงจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นของตนเอง อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม การแสดงรวมใจไทยสี่ภาค การแสดงจากกลุ่มชาติพันธุ์อีซอและกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า
สำหรับ ผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานฯ ภายใต้ หัวข้อ "soft power ของประเทศไทย"รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Oasis KC จากโรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ จ.ยโสธรรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม ลูกเจ้าพ่อไทรเงิน 2 จาก โรงเรียนพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานีรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีมฝูงบินต่ำ RNK2 จากโรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล จ.นครพนมรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 ได้แก่ ทีม DoubleIce จาก โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงรายรางวัลชมเชยอันดับ 1 ได้แก่ ทีม ตะโกราย จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ.นครราชสีมาและรางวัลชมเชยอันดับ 2 ได้แก่ ทีม คำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ จาก โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ จ.ยโสธร
ทั้งนี้ จะมีการจัดการแข่งขันประกวดออกแบบแผนการบินโดรนแปรอักษร (Drone Light Show Pattern Design) ให้กับเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับเยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพทักษะการเขียนโปรแกรมบังคับและควบคุมโดรน (Drone) ประยุกต์สู่การใช้งาน อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในอนาคต โดยสามารถติดตามข่าวสารการอบรมได้ที่ Facebook Fanpage : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ
ที่มา: สำนักข่าวการศึกษาไทย