ตามที่ ก.ล.ต. กำหนดแผนยุทธศาสตร์ ปี 2567 - 2569 โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน ควบคู่ไปกับบทบาทการพัฒนาตลาดทุนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ด้านการเข้าถึงตลาดทุนในวงกว้าง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ก.ล.ต. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหุ้น IPO ที่ครบถ้วน โปร่งใส และทันเวลา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจของผู้ลงทุน โดยมุ่งเน้นให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนเพิ่มขึ้น (disclosure-based) เพื่อให้ทันเวลาและไม่เป็นภาระต่อผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูล
ก.ล.ต. จึงเสนอแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติม โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(1) กำหนดให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO เพิ่มเติมจากแบบรายงานผลการขายหุ้น 81-1-IPO ในรูปแบบรายงานผลการขายหุ้น 81-1 อย่างย่อ (แบบ 81-1 อย่างย่อ) ประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วน
- ข้อ มูลผู้ถือหุ้นเดิม เช่น จำนวนและสัดส่วนการถือหุ้นหลัง IPO จำนวนหุ้นที่มีข้อกำหนดการห้ามขาย (Lock-up)
- ข้อมูลผู้ได้รับจัดสรรมากที่สุด เช่น จำนวนและสัดส่วนการถือหุ้นหลัง IPO ของผู้ได้รับจัดสรรสูงสุด 10 รายแรก และแหล่งที่มาของการได้รับจัดสรร
- ข้อมูลผู้มีอุปการคุณของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เช่น จำนวนและสัดส่วนการถือหุ้นหลัง IPO ของผู้มีอุปการคุณสูงสุด 10 รายแรก
- ข้อมูลผู้ได้รับจัดสรรสูงสุดจากผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) เช่น ผู้ได้รับจัดสรรสูงสุด 10 รายแรกของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์แต่ละราย เป็นต้น
(2) กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานนำส่งแบบ 81-1 อย่างย่อ นำส่งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการก่อนวันที่บริษัทจะเข้าซื้อขายเป็นวันแรก (First trading day) หรือภายใน 30 วันนับแต่วันที่ปิดการเสนอขาย แล้วแต่ว่าวันใดถึงกำหนดก่อน โดยให้บริษัทรายงานข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ที่จัดไว้ และให้ถือว่าได้รายงานต่อ ก.ล.ต. ด้วยแล้ว (ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับการนำส่งรายงานแบบ 81-1-IPO ในปัจจุบัน)
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=959 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง email : [email protected] จนถึงวันที่ 22 มกราคม 2567
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์