นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SSP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับเรื่อง สิ่งแวดล้อม และสังคม ไปพร้อมกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้นบริษัทฯ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) เพื่อกำหนดนโยบาย ทิศทาง และแนวทางการดำเนินงาน ไปสู่การปฏิบัติทั่วทั้งองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้มีการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงเรื่อง "ESG" เป็นสำคัญ
สำหรับเป้าหมายด้าน ESG ของบริษัทฯตั้งเป้า 6 เป้าหมายทั้ง 3 มิติ ดังนี้
- มิติเศรษฐกิจ
เป้าหมายที่ 8 การสร้างงานที่มีคุณค่าและเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เป้าหมายที่ 16 ลดการทุจริตในตำแหน่งหน้าที่และการรับสินบนทุกรูปแบบ
- มิติสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายที่ 7 สนับสนุนให้มีการเข้าถึงการบริการพลังงานสมัยใหม่ที่เชื่อถือได้ ในราคาที่สามารถหาซื้อได้
เป้าหมายที่ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- มิติสังคม
เป้าหมายที่ 5 สร้างความเท่าเทียมทางเพศ เสริมพลังทางสังคมแก่ผู้หญิง
เป้าหมายที่ 11 ลดผลกระทบทางด้านมลภาวะทางอากาศ และการจัดการของเสียของเทศบาล
ขณะที่ การจัดตั้งคณะกรรมการ ESG ในครั้งนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของบริษัทฯ ที่มีต่อความโปร่งใสและความรับผิดชอบทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะรายงานผลการดำเนินงานและประชาสัมพันธ์ด้านการพัฒนาความยั่งยืน ให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อาทิ เช่น พนักงาน นักลงทุน คู่ค้า และประชาชน ให้ได้รับทราบอย่างสม่ำเสมอ และคณะกรรมการฯ จะทุ่มเททำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแนวทางปฏิบัติของบริษัทฯ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กร เพิ่มคุณค่าขององค์กรในระยะยาว และการส่งเสริมการจัดการด้าน ESG เชิงกลยุทธ์
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเป็น Net Zero Emission ตามกรอบแผนพลังงานชาติ ที่มีการกำหนดนโยบาย และมีเป้าหมายสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาร์บอนไดออกไซด์ สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายใน ค.ศ. 2065 - 2070 (พ.ศ. 2608 - 2613)
ปัจจุบัน SSP ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล้วนเป็นพลังงานสะอาด ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์, โรงไฟฟ้าพลังงานลม, โรงไฟฟ้าชีวมวล และ พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา และที่ผ่านมายังได้รับ Green Loan การกู้ยืมเงินเพื่อไปใช้สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม จาก International Finance Corporation หรือ IFC และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลค่ารวม 2.2 พันล้านบาท และยังมีแผนขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable อย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกในปัจจุบันนี้ กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก จากสภาพอากาศที่แปรปรวน อุณหภูมิสูงขึ้นต่อเนื่อง จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้ทั่วโลกตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น การเลือกใช้พลังงานทดแทน จึงสร้างประโยชน์สำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืนของโลก เพราะไม่สร้างมลพิษทางอากาศ หรือส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างแน่นอน
ที่มา: เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น