นายแพทย์สุรพันธ์ เอื้อวัฒนามงคล รองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายแพทย์ กลุ่ม 1 โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ในนามองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ได้ตระหนักถึงผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งต้องรอรับการรักษาอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ประสานกับโรงพยาบาลสุโขทัย ทีมแพทย์ของเราขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสาธารณประโยชน์คืนสู่สังคม ตามนโยบาย Social Responsibility - SWAT Project : 3C (Charity-Cure-Care) เปิดเป็นโครงการ BHQ MSO Charity เพื่อให้การสนับสนุนด้านสุขภาพกับผู้ป่วยที่ยากไร้ ส่งเสริมศักยภาพแพทย์เพื่อให้มีทักษะการผ่าตัดส่องกล้องไส้เลื่อนขาหนีบแบบไม่ทำลายเยื่อบุช่องท้อง พร้อมทั้งจัดอบรมให้แพทย์และพยาบาลที่มาศึกษาดูงาน มุ่งเน้นมาตรฐานการรักษาและดูแลความปลอดภัยทางคลินิกก่อนผ่าตัด ระหว่างการผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัย
นายแพทย์สุรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสุโขทัย ช่วงวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566 ทีมศัลยแพทย์ โดย ศ.นพ.สุเทพ อุดมแสวงทรัพย์ และ นพ.ชนินทร์ ปั้นดี ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการผ่าตัดส่องกล้อง นำร่องผ่าตัดผู้ป่วย 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยไส้เลื่อนขาหนีบ (Inguinal Hernia) โดยทำการผ่าตัดไส้เลื่อนขาหนีบผ่านกล้องส่องผนังหน้าท้อง โดยไม่ทำลายเยื่อบุช่องท้อง (Laparoscopic Total Extraperitoneal Hernia Repair : TEP) โดยขอความอนุเคราะห์ทางมูลนิธิเวชดุสิต ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมสนับสนุนจัดซื้ออุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องให้แก่ผู้ป่วย เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลสุโขทัยได้ใช้ในการรักษาผู้ป่วยรายอื่น ๆ ต่อไป
นายแพทย์สิทธิโชค กวีรัตนา นายแพทย์ชำนาญการด้านศัลยกรรม โรงพยาบาลสุโขทัย กล่าวว่า โรงพยาบาลสุโขทัย ภายใต้การบริหารงานของ นพ.มาโนช อู่วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุโขทัย ได้มุ่งเน้นการพัฒนาการรักษาผู้ป่วยทางด้านศัลยกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพต้องรอรับการผ่าตัดเป็นจำนวนมาก ในโอกาสที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ทำโครงการ BHQ MSO Charity นำทีมศัลยแพทย์และพยาบาล มาช่วยพัฒนาศักยภาพการผ่าตัดของศัลยแพทย์ประจำที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะเทคนิคการผ่าตัดผู้ป่วยไส้เลื่อนขาหนีบแบบส่องกล้อง ซึ่งคำนึงถึงความเหมาะสม ความปลอดภัยเป็นสำคัญ รวมไปถึงนำกระบวนการดูแลผู้ป่วยผ่าตัดศัลยกรรมมาเป็นต้นแบบและสร้างให้เป็นมาตรฐานให้โรงพยาบาลสุโขทัยได้รักษาดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการรอการรักษา สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
ที่มา: Notable Bangkok