หัวเว่ย สกมช. และ กพร. เสริมศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่คลาวด์ประเทศไทย ร่วมจับมือเปิดโครงการฝึกอบรมบุคลากรดิจิทัลด้านคลาวด์ ตามกลยุทธ์ Cloud Security First

พุธ ๐๓ มกราคม ๒๕๖๗ ๑๑:๒๑
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และสถาบันพัฒนาบุคลากรดิจิทัล (กพร.) เปิดตัวโครงการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสำหรับเทคโนโลยีคลาวด์ให้แก่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศไทย ตอบรับความต้องการบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมคลาวด์ของประเทศ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้แก่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในไทย และยกระดับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ตามจุดยืนของหัวเว่ยเรื่อง "เติบโตในประเทศไทย เพื่อประเทศไทย" และกลยุทธ์ Cloud Security First ของ สกมช.
หัวเว่ย สกมช. และ กพร. เสริมศักยภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่คลาวด์ประเทศไทย ร่วมจับมือเปิดโครงการฝึกอบรมบุคลากรดิจิทัลด้านคลาวด์ ตามกลยุทธ์ Cloud Security First

นายเอดิสัน สวี คณะกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "หัวเว่ยเล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีคลาวด์ของประเทศไทย และความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานนี้ จึงตั้งเป้าจะตอบโจทย์เรื่องนี้ด้วยการบ่มเพาะบุคลากรให้ถึง 10,000 รายภายในปี 2024 เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความปลอดภัยของคลาวด์ในไทยและช่วยปกป้องระบบสารสนเทศทางไซเบอร์ของประเทศ โดยโครงการความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นจำนวนมาก รวมถึงจะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับภาคสาธารณะ เพิ่มแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีคลาวด์ และเพิ่มการตระหนักรู้ถึงเรื่องการป้องกันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวและข้อมูลส่วนตัว อันจะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศขึ้นไปอีกระดับได้"

เขายังกล่าวเสริมว่าการเปิดตัวโครงการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 2024 ในครั้งนี้ ยังช่วยตอกย้ำถึงความสำคัญของความปลอดภัยทางไซเบอร์และการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ผ่านการเสริมทักษะและความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีคลาวด์ให้แก่บุคลากรจากวิทยากรของมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ย คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อการบ่มเพาะทักษะเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่บุคลากรไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้กล่าวถึงความร่วมมือเพื่อฝึกอบรมบุคลากรดิจิทัลด้านความปลอดภัยเทคโนโลยีคลาวด์ในครั้งนี้ว่า "วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการผลิต พัฒนาบุคลากร และเพิ่มองค์ความรู้ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์บนเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย ตามนโยบายเรื่อง Cloud Security First ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ สกมช. ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ จนทำให้เกิดเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างหัวเว่ยและกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในวันนี้ ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาทักษะ จัดเตรียมช่องทางในการฝึกอบรมบุคลากร รวมถึงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อปกป้องข้อมูลบนคลาวด์ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นทั้งการแก้ไขช่องว่างเรื่องการขาดบุคลากรด้านดิจิทัล และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของไทยไปอย่างควบคู่กัน"

ด้าน นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการความร่วมมือครั้งนี้ว่า "แม้ว่าการประมวลผลแบบคลาวด์จะได้รับความนิยมมากขึ้นในไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่บุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม เพื่อแก้ไขช่องว่างนี้ หน่วยงานภาครัฐจึงร่วมมือกับองค์กรในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการบ่มเพาะบุคลากรดิจิทัล รองรับด้านความปลอดภัยบนเทคโนโลยีคลาวด์ ทั้งนี้ การพัฒนาศักยภาพแรงงานในไทยให้มีศักยภาพสูง และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานสมัยใหม่ ตรงกับภารกิจของ กพร. ในการตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ซึ่งเราต้องขอขอบคุณพันธมิตรภาคเอกชนระดับโลกอย่างหัวเว่ยที่ช่วยสนับสนุนทั้งเรื่องเทคโนโลยี บุคลากร และสถานที่สำหรับการจัดโครงการฝึกอบรมในครั้งนี้ รวมถึงการนำองค์ความรู้ชั้นนำต่าง ๆ มาช่วยพัฒนาแรงงานไทยให้มีความรู้ และความสามารถมากยิ่งขึ้น ตอบรับกับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ให้ความสำคัญกับโครงการบ่มเพาะบุคลากรดิจิทัลในประเทศไทยเป็นจำนวนหลากหลายโครงการ ผ่านการผสานความร่วมมือทั้งกับพันธมิตรในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา
ต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมีโครงการเรือธงหลายโครงการ อาทิ โครงการ Huawei ASEAN Academy ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมหลักเพื่อบ่มเพาะและเพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศไทย โครงการ Seeds for the Future ในประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการบ่มเพาะเยาวชนที่มีความสนใจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านไอซีที เปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าถึงโครงการฝึกอบรมและองค์ความรู้ระดับคุณภาพ การเปิดตัวโครงการการแข่งขัน Cyber Top Talent Competition ร่วมกับทาง สกมช. เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สกมช. ในการจัดหลักสูตรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่บุคลากรและผู้บริหารด้านไอซีที เป็นต้น นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยยังได้เดินหน้าต่อยอดโครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคม เพื่อเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรไอซีทีในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทยในจังหวัดต่าง ๆ กว่า 13 จังหวัด ด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีรวมถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งโครงการเหล่านี้ถือเป็นการตอบโจทย์พันธกิจสำคัญของหัวเว่ยในการ "เติบโตในประเทศไทย เพื่อประเทศไทย" และ "นำทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง"

ที่มา: คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ