โดยวัตถุประสงค์การจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนในปี 2024 ให้กับกลุ่มลูกค้า First ของธนาคาร ซึ่งในปี 2023 นับเป็นปีที่มีความท้าทาย จากภาวะลงทุนในตลาดโลกที่มีความผันผวนตลอดทั้งปี โดยคุณสุกิจ อุดมศิริกุล มองว่า ในปี 2024 ดัชนี SET จะปรับเพิ่มขึ้น แต่จะมีความผันผวนตลอดทั้งปี โดยในเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ประมาณ 1,650 - 1,750 จุด และจุดเข้าซื้อที่สำคัญอยู่ที่ 1,400 - 1,450 จุด สำหรับการเลือกหุ้นในปี 2024 มีหลักในการพิจารณา ดังนี้ 1 ) เลือกธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน มีความสามารถในการบริหารต้นทุน เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน จากสภาวะ อากาศแปรปรวน หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ 2) เลือกหุ้นที่มีนวัตกรรมช่วยสร้างธุรกิจที่เป็น New S - Curve 3) สัดส่วนหนี้สินต่ำ ความสามารถในการชำระหนี้สูง 4) เหมาะสมกับ Invesment theme ในปี 2024 เน้นวัฐจักรเศรษฐกิจนประเทศ 5 ) ให้ความสำคัญกับ ESG อย่างชัดเจน 6) ระมัดระวังธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออก และอาจได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศแปรปรวน และ 7) ราคายังคง Undervalue สำหรับหุ้นแนะนำในการลงทุนแบบ DCA (Dollar -Cost - Averaging ) ได้แก่ BBL BDMS BEM CPALL PTT และSCC
ดร. กำพล อดิเรกสมบัติ กล่าวว่า ในปี 2023 เป็นปีแห่งความผันผวน ในขณะที่ปี 2024 เป็นปีแห่งความคาดหวังแต่ต้องระมัดระวัง โดยมองว่า เศรษฐกิจแต่ละประเทศชะลอตัวไม่เหมือนกัน เนื่องจากผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง สภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัวขึ้น การปล่อยสินเชื่อที่มีความเข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการเลือกตั้งในหลายประเทศ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม ในปี2024 คาดว่านักลงทุนจะมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แต่ยังแนะนำให้เน้นลงทุนในกลุ่มคุณภาพสูงสำหรับทุกสินทรัพย์ เช่น หุ้นกู้คุณภาพสูง ( Investment Grade bonds) และ ทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Quality growth ที่มี balance sheet แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอินเดีย
ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์