นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยภายหลังลงนามความร่วมมือดังกล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จและต่อยอดความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงกลาโหม ที่ร่วมกันส่งเสริมการมีงานทำให้กับทหารกองประจำการอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีอาชีพหลักและอาชีพเสริม ที่ผ่านมาได้ร่วมกับกองทัพเรือจัดฝึกอบรมให้แก่ทหารกองประจำการหลายหลักสูตร เช่น ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างสีอาคาร ช่างปูกระเบื้อง การขับรถโพล์คลิฟท์ เป็นต้น โดยระหว่างปี 2564 - 2566 มีทหารเรือเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 349 คน และผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมนำความรู้ไปประกอบอาชีพ ร้อยละ 69.53 มีรายได้เฉลี่ย 9,794 บาท/คน/เดือน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 28 ล้านบาทต่อปี เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของทหารเรือหลังปลดประจำการให้ดีขึ้น
นางสาวบุปผา กล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกับกองทัพเรือ โดยคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ มีแผนการฝึกอบรมในหลักสูตรอื่น ๆ เพิ่มเติมที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน อาทิ ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างเครื่องปรับอากาศ ช่างเชื่อม การเขียนแบบ AutoCAD โดยจะจัดฝึกอบรมนำร่องในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ระยอง จันทบุรี นครพนม เชียงราย กระบี่ พังงา และสงขลา นอกจากนี้ ยังร่วมกันจัดทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติและประเมินความรู้ความสามารถให้อีกด้วย รวมถึงพัฒนาหลักสูตรและพัฒนาทักษะให้แก่ครูฝึกของทหารกองประจำการ เพื่อเป็นวิทยากรต้นแบบในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่กลุ่มทหารกองประจำการต่อไป
"การพัฒนาทักษะฝีมือให้กับทหาร ส่งผลดีหลายด้านเพราะนอกจากการสร้างกำลังแรงงานที่มีวินัยและความรับผิดชอบสู่สถานประกอบกิจการแล้ว ทหารก่อนปลดประจำการ ยังสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของกองทัพเรือ และช่วยเหลือประชาชนได้อีกด้วย" อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวในท้ายสุด
ที่มา: กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน