ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน)หรือ BLC หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยามีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี จากการกลับเข้ามารักษาในโรงพยาบาลของประชาชน และเทรนด์การดูแลสุขภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเติบโตทั่วโลก รวมทั้งการกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Complete-Aged Society) ของประเทศไทย โดยในปี 2566 ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุราว 12.8 ล้านคน คิดเป็น 19.40% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการยาในระบบสุขภาพขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายสร้างรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์สร้างการเติบโต 4P Innovation ได้แก่ 1) Product กลุ่มบริษัทฯ วิจัย และพัฒนายาแผนปัจจุบันประเภทยาสามัญ (Generic Drugs) และยาสามัญใหม่ (New Generic Drugs) เพื่อใช้ทดแทนยาจากต่างประเทศเมื่อยาต้นแบบหมดสิทธิบัตร โดยมีแผนวางจำหน่ายต่อเนื่องทุกไตรมาส เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นยากลุ่มโรคที่มีอัตราเป็นโรคต่อประชากรในสัดส่วนที่สูง มีอัตราการเติบโตสูง รองรับการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย และเทรนด์ด้านสุขภาพที่กำลังเติบโตทั่วโลก 2) Place มุ่งขยายสู่ตลาดโรงพยาบาล ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนมากถึง 80% ของมูลค่ารวมของตลาดยาในประเทศไทย เพิ่มยอดขายผ่านช่องทางร้านขายยาซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ช่องทางออนไลน์ Modern Trade และ e-Commerce เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่มีอยู่อย่างหลากหลายได้ง่ายขึ้น 3) Process สร้าง Brand Awareness ให้แก่ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ พร้อมสื่อสารกิจกรรมการตลาดเชิงรุกทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 4) People กลุ่มบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมยามาอย่างยาวนาน และมีทีมขายที่แข็งแกร่งในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาด รวมทั้งมีพันธมิตรทางการค้าที่พร้อมสร้างการเติบโตรวมกันกับ BLC ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนการส่งออกตลาดต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ ที่เป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญทางการค้า โดยมีเป้าหมายหลักเป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และพร้อมขยายตัวทางด้านธุรกิจไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง และจีน
"เราวางแผนวิจัยและพัฒนายาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ เพื่อจำหน่ายทันทีหลังจากสิทธิบัตรของยาต้นแบบหมดอายุ ที่มีอัตราการทำกำไรที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส สร้าง New S-Curve ผลักดันรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนไทย รองรับสังคมผู้สูงอายุ และการเติบโตของเทรนด์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันในอนาคต" ภก.สุวิทย์ กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย