รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์การค้าข้าวโลก มีแนวโน้มแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น ไทยจึงต้องเร่งทำตลาดข้าว และส่งออกข้าวไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมภาพลักษณ์ข้าวไทยให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รู้จักในฐานะข้าวคุณภาพดี มีมาตรฐาน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อข้าวไทยมากขึ้น เนื่องจากฝั่งตะวันตกมีชาวเอเซียอยู่เป็นจำนวนมาก มีโอกาสที่จะจำหน่ายข้าว และอาหารไทยสูงขึ้น ส่วนการหารือกับ Mrs.Chris Wong ได้ขอบคุณที่นำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สินค้าไทยมาโดยตลอด โดยหวังว่าจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต และหากมีอุปสรรคอะไร กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลไทยพร้อมเข้าช่วยเหลือและแก้ไขให้
นอกจากนี้ยังได้หารือกับ Mr.Michael Taccone ผู้จัดการห้าง ห้าง Ralphs Fresh Fare ซึ่งเป็นห้างในเครือบริษัท Kroger Co. (โครเกอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ มีจำนวน 2,759 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างการซื้อกิจการเครือ Albertson มีซุปเปอร์มาร์เก็ตในมือจำนวน 2,323 แห่ง หากรวมกันสำเร็จจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 5,000 แห่ง โดยได้ขอบคุณ Mr.Michael Taccone เช่นกัน ที่เล็งเห็นความสำคัญและให้โอกาสสินค้าไทยในการจัดกิจกรรมร่วมกัน และหวังว่าห้างจะให้ความร่วมมือกับผู้นำเข้าสินค้าไทยสั่งซื้อสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอาหาร เกษตรแปรรูป และสินค้านวัตกรรม
"ล่าสุดได้รับรายงานจากนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ กำลังเร่งจัดกิจกรรมการส่งออกสินค้าไทยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จึงขอฝากผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย ปรับตัวและให้ความสำคัญกับกติกาการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เรื่องคาร์บอนเครดิต การดูแลสิ่งแวดล้อม กรีนอีโคโนมี่ ซึ่งจะเพิ่มแต้มต่อในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในอนาคต"นายภูมิธรรม กล่าว
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังได้พบกับนายเอนก พลอยแสงงาม ประธานบริษัท LAX-C Inc. ที่เป็นผู้ผลิต จำหน่าย และนำเข้าอาหารจากเอเชีย ทั้งข้าวหอมมะลิ ผัก ผลไม้กระป๋อง เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำมะขามเปียก แป้งมันสำปะหลัง และ อุปกรณ์สำหรับใช้ในร้านอาหาร โดยขอความร่วมมือให้เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการไทยมาขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รายเล็กและรายย่อย
ที่มา: กระทรวงพาณิชย์