นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2565) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน จาก GPS Tracking ที่ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น กลุ่มลูกค้ารายย่อย กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากการเปิดศูนย์บริการและขายสินค้า DTC SHOP โดยตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการเพิ่มอีก 20 แห่งภายในปีนี้ จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้ว 9 แห่ง
ในส่วนของงานด้าน IoT Solutions และระบบ AI บริษัทฯ วางแผนทำโครงการ Smart City Solution, Smart AI Solution ให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความสนใจ ปัจจุบันได้รับงานโครงการระบบ AI เพื่อบริหารจัดการเครื่องสูบน้ำ ของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร สำหรับระบบ BAMS (Business Activity Management System) เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 45 บริษัท
"ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ GPS Tracking และงาน IoT Solutions ทั้งการเปิดศูนย์ DTC SHOP เพิ่ม การรับงานจากโครงการของภาครัฐ การพัฒนาระบบ AI ให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งมีแผนที่จะนำโมเดล GPS Tracking และงาน IoT Solutions ไปในกลุ่มประเทศ CLMV และมีแผนที่จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ในรูปแบบ M&A กับบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่ดี คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะสนับสนุนให้ผลงานของ DTCENT เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง" นายทศพล กล่าว
ขณะที่ ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ กับ บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการขอ Certificate IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในต้นปีนี้ และจะสามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ในปีหน้า ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้ เริ่มมีการติดตั้งอุปกรณ์ GPS Tracking ให้กับรถขนส่งสินค้า ในกลุ่มของ บริษัทบุญรอดฯ และมีความร่วมมือในการทำงานโครงการของหน่วยงานราชการ
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2566 คาดว่า ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคธุรกิจขนส่งสินค้า การเดินทาง การท่องเที่ยว เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะตามปกติแล้ว
ที่มา: ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์