ในปี 2566 นี้ ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้น 8-10% เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดในปี 2565 แต่ไฮเออร์ประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะปิดยอดขายปีนี้อยู่ที่ 9,070 ล้านบาท ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดในเชิงปริมาณที่เติบโตเช่นกัน โดยสามารถแจกแจงได้เป็นตามประเภทของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไฮเออร์ดังนี้ เครื่องปรับอากาศไฮเออร์ ผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัท สร้างยอดขายรวมกว่า 4,000 ล้านบาท (เติบโต 12 %) มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดเชิงปริมาณ ตู้เย็นไฮเออร์ ยอดขายรวมคิดเป็น 1,500 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาดเชิงปริมาณเป็น 12.9%, เครื่องซักผ้าไฮเออร์กวาดยอดขายรวมเกือบ 1,000 ล้านบาท, ตู้แช่ไฮเออร์ ยอดขายรวมคิดเป็น 900 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 38% และยอดขายเป็นอันดับ 1 ของตลาดตู้แช่ประเทศไทย, ทีวีไฮเออร์ ยอดขายรวม 800 ล้านบาท, เครื่องครัวไฮเออร์ มียอดขายเติบโตจากปีที่แล้ว ถึง 62%, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กไฮเออร์ ยอดขายรวม 250 ล้านบาท และเครื่องทำน้ำอุ่นไฮเออร์ ยอดขายรวมคิดเป็น 313 ล้านบาท
นายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากตัวเลขทั้งหมดในยอดขายของปี 2566 ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไฮเออร์ประเทศไทยพอใจเป็นอย่างมาก นอกจากการคาดการณ์ยอดขายกว่า 9,070 ล้านบาทในปี 2566 แล้ว เครื่องปรับอากาศไฮเออร์ได้ขยับขึ้นเป็น "ผู้นำอันดับ 1" ในตลาดเครื่องปรับอากาศ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากถึง 12.9% และจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตู้เย็นไฮเออร์ ทำให้ไฮเออร์ขยับเป็นท็อป 3 ของตลาดในประเทศไทย และในปี 2567 เราตั้งเป้ายอดขายให้โตสู่ 11,000 ล้านบาท ด้วยการไม่หยุดพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยคำนึกถึงสุขภาพเป็นสำคัญให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน"
กลยุทธ์ทางการตลาดของ ไฮเออร์ ประเทศไทย ในปี 2567 ตั้งใจทุ่มงบกว่า 1 พันล้านบาทสำหรับการทำกิจกรรมทางการตลาดให้กับแบรนด์ ไฮเออร์ และ คาซาร์เต้ โดยในฝั่งของแบรนด์ไฮเออร์นั้นจะยังคงนำทัพด้วย 2 แบรนด์แอมบาสเดอร์ คือ คุณบอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และคุณปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เพื่อเป็นตัวแทนในการตอกย้ำเรื่องใส่ใจสุขภาพ จากเทคโนโลยีต่าง ๆ ของสินค้าไฮเออร์ ที่จะมาใน Concept ใหม่แต่ยังคงมุ่งส่งเสริมสุขภาพของคนไทย และยังคงกิจกรรม Sport Marketing ที่มาในภาพที่ใหญ่ขึ้น โดยจะเป็นการจัดงานในระดับ Southeast Asia รวมทั้งมีการทำภาพยนตร์โฆษณาต่าง ๆ สื่อ Out of Home และ กิจกรรม Road Show มากกว่า 500 ครั้ง ทั่วประเทศ และฝั่งของแบรนด์คาซาร์เต้นั้น ยังคงตีตลาด Luxury อย่างต่อเนื่อง มีการใช้ KOL และ KOC หลากหลายอาชีพในระดับลัคชัวรี มาเล่าประสบการณ์การใช้สินค้าคาซาร์เต้มากยิ่งขึ้น และจะมีการจัดกิจกรรม Exclusive Event และเชิญลูกค้ามาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกิจกรรมกับ KOLs รุ่นใหม่ เพื่อให้สินค้าของเราเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือ กลุ่ม Generation Y กับ Z
นอกจากกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ไฮเออร์และคาซาร์เต้แล้วนั้น ในปี 2567 ไฮเออร์ยังมีอีก 2 กลยุทธ์ที่เพิ่มเข้ามาคือ กลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของไฮเออร์และคาซาร์เต้ให้กว้างขึ้น โดยมีสินค้าตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับไฮเอนด์ และอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญคือการบริการหลังการขาย ไฮเออร์ยังคงดำเนินตามมาตรฐาน 210 Quick Service ที่จะมอบบริการได้อย่างรวดเร็วและตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด โดยจะติดต่อกลับหาลูกค้าภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากพนักงานรับเรื่องผ่านทาง Haier Care 1789 จากนั้นสรุปแนวทางแก้ไขให้ลูกค้าภายใน 1 วัน และแต่ละวันงานค้างต้องเป็น 0 มีศูนย์ซ่อมบริการรวมกว่า 187 ศูนย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%
"ในปี 2567 ไฮเออร์ ประเทศไทย จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่แบรนด์ไฮเออร์ 9 หมวดหมู่ โดยเครื่องปรับอากาศจะเพิ่มสินค้า UV Cool ซีรีส์ซึ่งประกอบด้วย UV Cool Premium, UV Cool Deluxe, UV Cool Smart และ UV Cool Standard สินค้าตู้เย็นประกอบด้วยรุ่น Multidoor , Side by side , รุ่น 2 ประตู และ รุ่น 1 ประตูรวมมากกว่า 10 ซีรีส์ เครื่องซักผ้าเปิดตัวซีรีส์ Color AI ที่มีความพิเศษตรงที่แผงควบคุมหน้าจอสีสวยงามและมีไอคอนแสดงภาพที่ใช้งานสะดวก ทีวีเปิดตัวเทคโนโลยี Self-Emissive ช่วยให้ได้รับชมภาพที่เสมือนจริง ตู้แช่รุ่นใหม่ ซีรีส์ Deep Freezer และซีรีส์อื่น ๆ อีก 5 ซีรีส์ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ได้เพิ่มขนาดสินค้าที่หลากหลายในซีรีส์ Ceiling Type, One Way Cassette, Duct Type และ Chiller เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก มีการเพิ่มไลน์สินค้ามากมาย เช่น กาต้มน้ำร้อนพร้อมระบบสัมผัสแบบดิจิทัล เครื่องปั่นอเนกประสงค์ร้อน-เย็น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า หม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าอัจฉริยะ ไร้ปุ่มสัมผัส ไดร์เป่า เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก เตารีดไอน้ำ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องครัวได้มีการเพิ่มสินค้าในหมวดหมู่ เครื่องดูดควัน เตาแก๊ส และ เตาอบไฟฟ้า เครื่องทำน้ำอุ่นมีสินค้ารุ่นใหม่ทั้งหมด 3 ซีรีส์ 27 รุ่น ทั้งนี้ผู้บริโภคทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของไฮเออร์ถูกออกแบบมาตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับไฮเอนด์เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการและยังคงห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภคเช่นเดิม" คุณธนาพงศ์ ศิริรัตน์อัสดร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
การเผยข้อมูลทางธุรกิจและการตลาดของไฮเออร์ประเทศไทยในครั้งนี้ได้ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของไฮเออร์ที่ได้ลงทุนพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคน อีกทั้งได้แสดงถึงความใส่ใจในสุขภาพด้วยกิจกรรมทางการกีฬาต่าง ๆ ไฮเออร์จะยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไม่หยุดยั้งในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน
ที่มา: มิดัส พีอาร์