ผลงานศิลปะแนวสตรีทอาร์ตของ Lucky Leg มีความโดดเด่นในเรื่องของความดิบ กล้าที่จะคิดต่างโดยไร้ซึ่งความกลัวใดๆ เขาสร้างสรรค์งานกราฟิตี้แทนวาทกรรมอันทรงพลังต่อประเด็นร้อนของสังคม Closeup จึงเลือก Lucky Leg มาสร้างผลงานกราฟิตี้ ชื่อ "Get Closer" ข้อความที่เรียบง่ายแต่มีความแน่วแน่ ภายใต้การดูแลของ Ogilvy PR ป้ายที่ออกแบบใหม่นี้จะเชิญชวนให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาหวนกลับมาให้ความสำคัญกับการใกล้ชิดกับผู้คนรอบตัวมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อน ครอบครัว หรือในวงกว้างของชุมชนต่างๆ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับแคมเปญรณรงค์ของ Closeup โดยการแบ่งปันประสบการณ์ของตนเองผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อช่วยกันสร้างกระแสให้พวกเราหันกลับมาให้ความสำคัญกับความใกล้ชิด กระตุ้นให้ผู้คนมีความกล้าที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ของการเว้นระยะห่างทางสังคมและสัมผัสกับความสุข ที่เกิดจากความใกล้ชิดกันอีกครั้งโดยมี Closeup เป็นตัวช่วยในการดูแลลมหายใจที่สะอาดสดชื่นของทุกคนให้ใกล้ชิดกันอย่างมั่นใจ ชมผลงานการเปลี่ยนแปลงของ Lucky Leg ได้ที่นี่ คลิก
และอีกเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าของ Closeup คือ การจุดประกายให้เกิดการเคลื่อนไหวที่มีทั้งความสนุกสนานและตื่นเต้น ให้ผู้คนใกล้ชิดกันมากขึ้น เมื่อทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างก็เต็มไปด้วยโพสต์และเรื่องราวของการโอบกอดที่จริงใจและมีชีวิตชีวาของผู้คนที่จุดหน้าป้าย Closeup ย่อมถือว่าแคมเปญนี้ก้าวไปได้ไกลเกินกว่าแคมเปญการตลาด เพราะได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของความใกล้ชิดและความสัมพันธ์ของผู้คนที่ไม่มีสิ่งใดทำลายได้
"เราเชื่อมั่นว่าพลังของการเชื่อมโยงของมนุษย์ที่แท้จริงจะมีความสำคัญมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ป้ายเตือนโควิดที่รายล้อมตัวเป็นเหมือนพลังเงียบที่ส่งผลไปยังความนึกคิดของเราที่จะต้องรักษะระยะห่างและแยกตัวออกจากคนอื่นต่อไป เราต้องการแย้งความคิดนั้น โดยปรับปรุงป้ายใหม่ให้เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง พลังจากการฟื้นตัว เพื่อย้ำเตือนว่าความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างจะมีความหมายยิ่งขึ้นเมื่อเราได้อยู่ใกล้กัน ดังนั้น เราจึงขอสนับสนุนให้ทุกคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ เมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ 'Get Closer' ไม่เพียงทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย แคมเปญนี้ขอเชิญชวนทุกคนเปิดใจ ยอมรับกันและกันให้มากขึ้น และมาร่วมกันเฉลิมฉลองการใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัดไปด้วยกัน" คุณ Gaurav Datta รองประธาน โกลบอลแบรนด์ Closeup กล่าว
แคมเปญสุดสร้างสรรค์นี้เป็นหนึ่งในอีกหลายแนวทางที่ Closeup ต้องการสื่อถึงความทุ่มเทในการส่งเสริมความใกล้ชิดและสร้างผลกระทบเชิงบวกทั่วโลก กล่าวได้ว่าแบรนด์กำลังสร้างแรงบันดาลใจให้กับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมด้วยการพิสูจน์ให้เห็นว่าหากเรามีความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นที่แท้จริง แม้แต่สัญลักษณ์การแยกตัวที่ดูจะหนักหนารุนแรงที่สุดก็สามารถแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นเครื่องหมายของความอบอุ่นและความใกล้ชิดได้ เปลี่ยนภาพจำที่หลงเหลือจากอดีตมาสื่อสารใหม่อย่างชาญฉลาด Closeup ไม่เพียงสร้างนิยามใหม่ให้กับภาพลักษณ์ของเมือง แต่ยังเป็นการเขียนเรื่องราวบทใหม่ให้กับความสัมพันธ์ของมนุษย์อีกด้วย
ที่มา: โอกิลวี่