กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--TCELS
TCELS ตั้งงบปีหน้า 177 ล้าน เดินหน้า 11 โครงการใหญ่ เน้น 3 แนวทางหลัก พัฒนายา-ผลิตภัณฑ์-บริการแนวใหม่ ให้เป็นผู้นำในระดับสากล ตั้งเป้าลด Overhead Cost จากปีที่ผ่านมาอีก 8% สนองนโยบายรัฐใช้เงินทุกบาทให้เกิดประโยชน์สูงสุด “น.พ.ธงชัย” แย้มข่าวดีเร็ว ๆ นี้ มีเม็ดเงินเข้าประเทศแน่นอน
น.พ.ธงชัย ทวิชาชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย (TCELS) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2551 TCELS พร้อมเดินหน้า 11 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการเดิม 8 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเภสัชพันธุศาสตร์ คือการให้ยาตรงคนตรงโรค ลดการแพ้ยา ปรับขนาดยาให้เหมาะเฉพาะบุคคล เพื่อวางพื้นฐานให้สามารถรักษาโรคแนวใหม่ 2.โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ 3. โครงการผลิตภัณฑ์หน้าขาวจากยางพารา ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะเข้าสู่กระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป 4.โครงการพัฒนาสถานที่ผลิตสัตว์ทดลองที่ได้มาตรฐานระดับโลก รองรับการพัฒนายาใหม่ 5.โครงการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนไข้เลือดออกระดับก่อนอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพราะวัคซีนไข้เลือดออกเป็นวัคซีนที่จำเป็นและได้มีการผลิตขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ต้น 6.โครงการผลิตบุคลากรด้านชีววิทยาศาสตร์ เพื่อสนับสนุนโครงการด้านชีววิทยาศาสตร์ที่กำลังดำเนินการอยู่และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 7.โครงการจั้งตั้งธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด เป็นการส่งเสริมให้มีการปลูกถ่ายไขกระดูก เพื่อการรักษาที่หายขาด และ 8.โครงการจัดประชุมนวตกรรมชีววิทยาศาสตร์ในกรอบความร่วมมือระดับเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในอนาคต TCELS ในฐานะเป็นศูนย์กลางความร่วมมือทางด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทยและกรอบเอเปก จะเป็นแกนนำในการผลักดันให้เวทีการประชุมดังกล่าวเป็นองค์กรถาวร
น.พ.ธงชัย กล่าวว่า สำหรับ 3 โครงการใหม่ที่จะดำเนินการตามแผนงบประมาณปี 51 คือ 1.โครงการจัดตั้งธนาคารดีเอ็นเอรองรับการถอดรหัสพันธุกรรม การพัฒนายาและวิธีการรักษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2.บริหารจัดการคลัสเตอร์ด้านสุขภาพและอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมทางการผลิตเวชภัณฑ์เพื่อการส่งออก และ 3. โครงการศูนย์กลางการบริการสุขภาพ เพื่อพัฒนาระบบการแลกเปลี่ยนและเชื่อมต่อข้อมูลคนไข้ให้สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งในและต่างประเทศ
“โดยทั้ง 11 โครงการนั้น TCELS ได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 17% แต่ลด Overhead Cost ซึ่งเป็นงบเงินเดือนและงบด้านบริหารลง จาก 29% เหลือ 21% โดยจะใช้งบประมาณดำเนินการตามโครงการต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TCELS กล่าวและว่าในอนาคตอันใกล้ TCELS จะแถลงถึงความสำเร็จในบางโครงการที่สามารถดึงนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาร่วมทุน คาดว่าจะมีเม็ดเงินมหาศาลเข้ามา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net