"นวัตกรรมที่ยั่งยืนเกิดขึ้นได้บนท้องถนน เรารับรองได้ว่านวัตกรรมและแนวคิดด้านยางรถยนต์จะพร้อมสำหรับลูกค้าของเราและเข้าสู่การผลิตอย่างเร็วที่สุดโดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ เราเป็นเจ้าแรกที่ผสมผสานเทคโนโลยีบุกเบิก เช่น นำขวด PET รีไซเคิลมาใช้ในยางรถยนต์ มากไปกว่านั้น เรายังเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายแรกที่เปิดตัวโมเดลที่มีวัตถุดิบหมุนเวียนและรีไซเคิลจำนวนมากซึ่งทำให้โลกของเรายั่งยืนมากขึ้น" Jorge Almeida หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของคอนติเนนทอล ไทรส์ กล่าว
เส้นใยโพลีเอสเตอร์จากขวด PET
ขวด PET มักจะไปถูกนำไปเผาขยะหรือฝังกลบ ด้วยเทคโนโลยี Conti-Re.Tex คอนติเนนทอลและพันธมิตรจึงประสบความสำเร็จในการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูงสำหรับยางรถยนต์จากขวด PET รีไซเคิล โดยยางหนึ่งเส้นจะใช้ขวด PET จำนวน 9-15 ขวด (ขึ้นอยู่กับขนาดของยาง)
ผู้ผลิตยางรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมได้นำเทคโนโลยี Conti-Re.Tex เข้าสู่ความพร้อมในการผลิตภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเนื่องจากในโรงงานยางรถยนต์ การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตนั้น ทุกสิ่งจะต้องสอดคล้องกัน การใช้วัตถุดิบใหม่ๆถือเป็นการดำเนินการที่ซับซ้อนสำหรับวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบของคอนติเนนทอล ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อทั้งหมดประสานกันอย่างลงตัว ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากยางรถยนต์สมรรถนะสูงที่ปลอดภัย ประหยัดพลังงานและทนทาน สำหรับยางรถยนต์ซีรีส์ที่มีการใช้เทคโนโลยี Conti-Re.Tex นั้นได้เริ่มจำหน่ายโดยดีลเลอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์ในยุโรปตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา
ยางรถยนต์ที่ใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนถึง 65 เปอร์เซนต์
เทคโนโลยี Conti-Re.Tex ยังได้นำไปใช้ในยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลซึ่งมีความยั่งยืนมากที่สุดในตลาดจนถึงปัจจุบัน ยางรถยนต์ซีรีส์ UltraContact NXT ช่วยให้คอนติเนนทอลนำเสนอยางที่มีสัดส่วนของวัตถุดิบที่ยั่งยืนมากเป็นพิเศษ โดยเทคโนโลยีต่างๆที่ได้นำไปใช้ในยางรถยนต์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด Conti GreenConcept ซึ่งเปิดตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกที่งาน IAA Mobility 2021 ซึ่งรวมถึงการใช้ซิลิกาจากแกลบเหลือทิ้งหรือขวด PET รีไซเคิล การผลิตยางรถยนต์ซีรีส์ UltraContact NXT เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่ประเทศโปรตุเกส ด้วยวัตถุดิบหมุนเวียนและรีไซเคิลที่ได้รับการรับรองความสมดุลของมวลสูงสุดถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ยางรถยนต์ซีรีส์นี้ผสมผสานวัตถุดิบที่ยั่งยืนในสัดส่วนสูงเข้ากับความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะเดียวกันขนาดและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน 19 รายการของยางรถยนต์ซีรีส์นี้ล้วนได้รับการจัดอันดับสูงสุดในการจัดอันดับยางของสหภาพยุโรประดับ A ในแง่ของการต้านการหมุน ประสิทธิภาพการเบรกบนพื้นเปียก และเสียงยาง ภายในปี พ.ศ. 2573 คอนติเนนทอลตั้งเป้าที่จะใช้วัตถุดิบหมุนเวียนและรีไซเคิลมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ในยางรถยนต์ โดยยางรถยนต์ซีรีส์ UltraContact NXT นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ผลิตยางรถยนต์ในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน
นวัตกรรมที่สร้างห่วงโซ่คุณค่าอย่างยั่งยืน
ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนจึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของคอนติเนนทอลมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษระหว่างการขับขี่ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Conti CityPlus ที่นำเสนอในงาน IAA Mobility ในปีนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมของยางรถยนต์ได้มากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายถึงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงสำหรับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปและยังช่วยให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถขับขี่ได้ในระยะทางไกลขึ้นโดยสามารถเพิ่มระยะการเดินทางของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้สูงสุดถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า สามารถประหยัดได้ประมาณ 0.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร เทคโนโลยีล่าสุดของคอนติเนนทอลนี้สามารถนำไปใช้ในการผลิตได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ
คอนติเนนทอลทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์รวมถึงการบริการที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืนไปจนถึงการรีไซเคิลยางรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน ภายในปี พ.ศ. 2573 ผู้ผลิตยางล้อระดับพรีเมียมตั้งเป้าที่จะใช้วัตถุดิบหมุนเวียนและรีไซเคิลมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ในยางล้อ คอนติเนนทอลตั้งเป้าที่จะบรรลุสัดส่วนของวัตถุดิบที่ยั่งยืน 100 เปอร์เซ็นต์ในยางล้อภายในปี พ.ศ. 2593
ที่มา: Continental Automotive Bangkok