"โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์" ปี 2 เดินหน้าพัฒนาทักษะคนไทยขับรถปลอดภัยในทุกเส้นทาง

พฤหัส ๐๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ๑๔:๔๒
ในยุคที่ความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทยยังคงเป็นประเด็นที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทักษะและความชำนาญของผู้ขับขี่จึงกลายเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินตามไปด้วย โดยเฉพาะ "รถบรรทุก" ยานพาหนะที่มีส่วนสำคัญในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาค เป็นฟันเฟืองเบื้องหลังชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม ด้วยภารกิจในการขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ บนถนนกว่า 7 แสนกิโลเมตรในประเทศไทย ด้วยรถบรรทุกจำนวนมากกว่า 1.1 ล้านคัน ดังนั้น ความปลอดภัยของการขับรถบรรทุกจึงมีผลต่อความปลอดภัยของคนใช้รถใช้ถนนด้วยเช่นกัน พนักงานขับรถที่มีคุณภาพและความสามารถจะช่วยให้ท้องถนนมีความปลอดภัย และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ ปี 2 เดินหน้าพัฒนาทักษะคนไทยขับรถปลอดภัยในทุกเส้นทาง

หนึ่งคันปลอดภัย หลายคนอุ่นใจ

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย รวมถึงการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน จึงได้ริเริ่ม "โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์" โดยร่วมมือกับ โรงเรียนทักษะพิพัฒน์ โรงเรียนสอนขับรถ โดย บริษัท เอสซีจี สกิลล์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดเพื่อมอบโอกาสการส่งเสริมทักษะการขับรถบรรทุกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ให้กับผู้ที่สนใจที่ต้องการยกระดับทักษะการขับขี่รถบรรทุกเพื่ออาชีพ โดยมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกการขับรถทางถนนอย่างปลอดภัยให้กับตนเองและสังคม ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับเศรษฐกิจภาคครัวเรือน และสนับสนุนพันธกิจและเป้าหมายหลักของกรมขนส่งทางบก ในการลดอุบัติเหตุทางท้องถนนและส่งเสริมวัฒนธรรมการขับรถอย่างปลอดภัย

นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า "กว่า 131 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ความปลอดภัยเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญของเชลล์ ที่ถูกนำมาใช้ในการปฏิบัติงานทุกขั้นตอน และได้ส่งต่อวัฒนธรรมนี้ไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจกับเชลล์ รวมถึงบนเส้นทางกว่า 700,000 กิโลเมตร ในการขนส่งและส่งมอบน้ำมันคุณภาพสูงของเชลล์สู่ผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ภายใต้ Powering Progress ที่ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาและส่งมอบพลังงานสู่ผู้บริโภคอย่างปลอดภัย แต่ยังมุ่งผสานความร่วมมือและสร้างคุณค่าให้กับพันธมิตรทุกภาคส่วนในระบบ Eco-system ทั้งหมดของเรา ซึ่งรวมถึงพนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้บริโภค ชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การส่งเสริมการขับรถปลอดภัยบนท้องถนน ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่รถบรรทุก สร้างโอกาสทางอาชีพให้กับเศรษฐกิจภาคครัวเรือน และสนับสนุนความปลอดภัยทางถนนในภาพรวมของประเทศ"

นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานกรรมการบริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เอสซีจีตระหนักดีถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน จึงได้ก่อตั้งโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของบุคลากรด้านการขนส่งผ่านกระบวนการฝึกอบรมขับรถบรรทุกอย่างถูกต้องและปลอดภัยโดยมืออาชีพ เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถและใช้ถนนอย่างปลอดภัย มุ่งสร้างสุภาพบุรุษนักขับ Smart Driver ที่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการขับรถปลอดภัยและคุณภาพชีวิตให้กับสังคม ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เราเป็นพันธมิตรกับเชลล์ บริษัทพลังงาน ระดับโลกที่ร่วมยึดถือคุณค่าของความปลอดภัย ได้สนับสนุนส่งเสริมพัฒนาบุคลากรผู้ขับรถบรรทุก หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของภาคขนส่ง อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคงต่อไป"

เสริมสร้างทักษะขับขี่ปลอดภัยได้มาตรฐาน สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ปีที่ 2 ในครั้งนี้ได้จัดกิจกรรมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม 2566 มีผู้สำเร็จการอบรมจากโครงการฯ กว่า 270 คน สะท้อนถึงความใส่ใจของผู้เข้าร่วมโครงการต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านความปลอดภัยและหาโอกาสทางอาชีพเพื่อครอบครัว โดยโครงการฯ เปิดอบรม 2 หลักสูตรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ หลักสูตรการอบรมและพัฒนาทักษะการขับขี่เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถชนิดที่ 2 หรือ ชนิดที่ 3 ภายใต้หลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไม่น้อยกว่า 30 ชั่วโมง ครอบคลุมเทคนิคการขับขี่อย่างถูกต้องและปลอดภัย การคาดการณ์อุบัติเหตุ หน้าที่และความรับผิดชอบและมารยาทของผู้ขับขี่ ความรู้ด้านกฎหมายและกฎจราจร รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมของรถเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมการขับขี่อย่างปลอดภัย

นายนพพล พาธรรมะ หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการฯ เล่าถึงประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการเพื่อสร้างโอกาสทางอาชีพว่า "ในอดีต สังคมอาจจะให้ความสำคัญกับอาชีพขับรถบรรทุกน้อยกว่าปัจจุบัน มองว่าเป็นอาชีพทางเลือกท้ายๆ แต่ด้วยการขยายตัวทางการค้ามีการขนส่งมากขึ้น ทำให้บริษัท-ห้างร้านต่างๆ ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพนักงานที่มีคุณภาพในอาชีพนี้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนขับรถที่ต้องได้มาตรฐาน มีความรอบรู้ และใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย เพราะหากเกิดอุบัติเหตุก็จะส่งผลถึงความเสียหายของบริษัทด้วยเช่นกัน ผมเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงต้องการพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ในการขับรถที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย เพื่อให้บริษัทต่างๆ มั่นใจว่าผมสามารถทำงานให้ได้ และสามารถดูแลสินค้าให้ถึงที่หมาย โดยทำงานแล้วต้องปลอดภัยทั้งตัวผมเอง คนรอบข้าง และทรัพย์สินของบริษัท และสามารถยึดอาชีพการขับรถบรรทุกเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปในอนาคตครับ"

มากกว่าความใฝ่ฝัน คือความมุ่งมั่นสู้เพื่อความสำเร็จ

ตลอด 2 ปีของการดำเนินโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ ความสำเร็จของโครงการฯ ที่ได้รับ ไม่ได้วัดเพียงแค่จำนวนผู้ที่สำเร็จอบรมที่มีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น การแบ่งปันโอกาสอย่างเท่าเทียม การสนับสนุนความใฝ่ฝันทางอาชีพของผู้หญิงที่ต้องการจะก้าวสู่วงการขับรถบรรทุกมืออาชีพก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน

"การขับรถบรรทุกมักถูกมองว่าเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพียงเพราะว่าเราเป็นผู้หญิง" นางสาววิมุตตยา พิรุฬห์รัตนะ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ กล่าวด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า "เมื่อก่อนทำอาชีพเสริมสวย ต่อมาได้รู้จักครอบครัวอื่นที่มีอาชีพขับรถบรรทุกและมีรายได้สม่ำเสมอ จึงอยากลองเปลี่ยนอาชีพดูบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ต่อมารู้ว่าเชลล์มีโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย เปิดรับสมัครโดยไม่จำกัดเพศ จึงสมัครเข้ามาและได้รับคัดเลือกเรียนขับรถบรรทุก จนสามารถประกอบอาชีพเป็นพนักงานขับรถ บรรทุก 18 ล้อได้ ตัวเองดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมปลอดภัยร่วมกับองค์กรระดับโลก ผ่านอาชีพการขับรถบรรทุกที่รัก ทำให้สามารถยืนอยู่ในวงการนี้ได้อย่างมั่นคง และได้รับการยอมรับในตัวตนอย่างแท้จริง"

หลังจากเรียนจบการอบรมหลักสูตรใบอนุญาตขับขี่ชนิดที่ 3 (ท.3) จากโครงการฯ ปัจจุบัน นางสาววิมุตตยาได้รับใบอนุญาตขับขี่ ท.4 สำหรับขับรถบรรทุกขนส่งวัตถุอันตรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นใบอนุญาตขับรถบรรทุกขั้นสูงสุดในสายอาชีพนี้

ด้านนางสาวอรพรรณ นากฉาบ อีกหนึ่งผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการฯ กล่าวถึงโอกาสที่ได้รับว่า "การชอบเดินทางเป็นจุดเริ่มต้นของการมาเรียนขับรถบรรทุก โดยเริ่มเรียนรู้จากคนขับรถบรรทุกอาชีพ แต่ก็มีหลายครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองแก้ไขปัญหาระหว่างขับรถบนท้องถนนได้ไม่ดีพอ ต่อมารู้ว่าโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์เปิดรับสมัครให้คนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฟรี ก็คิดว่าจะได้ทำสิ่งที่ชอบให้เป็นอาชีพอย่างจริงจัง เลยมาสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งนอกจากจะได้ความรู้เพื่อการขับขี่ที่ถูกต้องแล้ว ยังมีเทคนิคที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้รวดเร็วและปลอดภัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนไม่ใช่แค่ตัวเรา และแน่นอนว่าได้รับงานมากขึ้นจากการพัฒนาทักษะการขับรถที่ได้มาตรฐานระดับมืออาชีพ ทำให้คุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัวดีขึ้นมากตามไปด้วย"

ความสำเร็จบนเส้นทางสายอาชีพขับรถบรรทุกของนพพล วิมุตตยา และอรพรรณ แม้จะมีแบคกราวด์และแรงบันดาลใจในการเข้าร่วมโครงการฯ ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ทั้งสามคนเห็นตรงกันคือ รู้สึกขอบคุณโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ที่เปิดโอกาสสู่อาชีพใหม่ที่มั่นคงอย่างยั่งยืนให้กับทุกคน และพวกเขาก็พร้อมแบ่งปันเรื่องราว โอกาส และประสบการณ์ดี ๆ ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ ให้กับคนรอบข้างและผู้ที่สนใจต่อไป ขณะที่เชลล์ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทย และผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาทักษะทางอาชีพสู่ smart driver ควบคู่ไปกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคชาวไทยต่อไป

ที่มา: เอบีเอ็ม คอนเนค

โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ ปี 2 เดินหน้าพัฒนาทักษะคนไทยขับรถปลอดภัยในทุกเส้นทาง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ