นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงานและชุดสหวิชาชีพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจบูรณาการคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล ขณะทำการประมง ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่าแรงงานจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายตามหลักสากล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความปลอดภัยในการทำงาน มีสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม มียารักษาโรค อาหาร น้ำ และเครื่องอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐานอย่างเพียงพอ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับค่าจ้าง ค่าตอบแทน ที่เป็นธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือนายจ้าง เจ้าของเรือ แรงงานประมง และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความตระหนักถึงความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย นำไปสู่การสร้างความมั่นคงทางสังคม ความรู้สึกถึงงานที่มีคุณค่า และการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ทั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเรือประมง 9,608 ลำ มีแรงงานประมงทะเล จำนวน 11,567 คน สัญชาติไทย 6,878 คน รองลงมา เป็นเมียนมา 3,857 คน กัมพูชาช 672 คน ลาว 156 คน และอื่นๆ 4 คน
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจบูรณาการเรือประมงกลางทะเลในวันนี้ มีการตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทำงานบนเรือประมงจำนวน 1 ลำ ชื่อเรือ ล.สังข์วัฒนา 5 จากการตรวจสอบพบว่า มีลูกจ้างทำงานบนเรือประมงทั้งสิ้น 35 คน เป็นแรงงานไทย 24 คน เมียนมา 3 คน กัมพูชา 7 คน และสัญชาติอื่น อีก 1 คน นายจ้างมีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายทั้งในเรื่องสภาพการจ้างการทำงาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน ไม่พบการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในเรือประมงทะเล ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการตรวจบูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วนเพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสภาพการจ้างการทำงานและการป้องกันการค้ามนุษย์ในกิจการประมง รวมทั้งการสร้างการรับรู้เรื่องกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งด้านสภาพการจ้างสภาพการ ทำงาน ความปลอดภัยในการทำงาน และการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย อันจะส่งผลให้ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนดและร่วมกันในการขับเศรษฐกิจในพื้นที่และประเทศต่อไป
ที่มา: กระทรวงแรงงาน