ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ผู้จัดการกองทรัสต์ มีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 - 31 ธ.ค. 2566 ในอัตรา 0.2175 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้การลงทุนเพิ่มเติมใน 2 โครงการใหม่ยังรับรู้รายได้ไม่เต็มปี แต่กองทรัสต์ยังสามารถจ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยได้ถึง 0.7895 บาทต่อหน่วยในปี 2566 โดยจะขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 29 ก.พ. 2567 และจ่ายเงินออกให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 15 มี.ค. 2567
นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า "ปีที่ผ่านมา PROSPECT REIT สามารถยืนหยัดรับมือกับความท้าทายทั้งการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และความผันผวนของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเป็นมืออาชีพของผู้จัดการกองทรัสต์ ที่ทั้งผู้บริหารและทีมงานมีประสบการณ์ตรงด้านการบริหารจัดการกองทรัสต์ รวมถึงการมีกลยุทธ์ที่มุ่งลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูง ทำเล Prime Location ของภาคอุตสาหกรรมที่รองรับความต้องการของลูกค้าแทบทุกกลุ่มธุรกิจ และยังมีศักยภาพของพื้นที่ Free Zone ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มธุรกิจประกอบกิจการนำเข้า-ส่งออก ตลอดจนความเชี่ยวชาญของผู้บริหารอสังริมทรัพย์ ที่ให้บริการและดูแลผู้เช่าแบบครบวงจร ทำให้ PROSPECT REIT มีผลการดำเนินงานดีอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอัตราการเช่าในปี 2566 ที่ผ่านมาสูงกว่า 95% และการที่ทรัพย์สินของกองทรัสต์เป็นอาคารสำเร็จรูป Ready Built คุณภาพสูง มีรูปแบบอาคารให้เช่าที่หลากหลาย ประกอบกิจการได้ทั้งโรงงานและคลังสินค้า ทำให้สามารถดึงดูดผู้เช่าที่ประกอบกิจการเป็นโรงงานสูงกว่า 80% โดยกิจการโรงงานนั้นมีอัตราการเคลื่อนย้ายที่ต่ำ ส่งผลให้ปี 2566 กองทรัสต์มีอัตราการต่อสัญญาที่สูงถึง 97.2% สามารถส่งต่อผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอให้กับผู้ถือหน่วยได้"
สำหรับอุตสาหกรรมของผู้เช่าในโครงการใหม่ที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมในปี 2566 โครงการ BFTZ 2 ถ.เทพารักษ์ และ โครงการ BFTZ 3 ถ.บางนา-ตราด กม.19 ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตโซล่าเซลล์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง รวมถึงยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รับเทรนด์การเติบโตของภาคการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า EV ด้านโครงการ BFTZ 1 ถ.บางนา-ตราด กม.23 สามารถรักษาฐานผู้เช่าเดิมได้อย่างเหนียวแน่น อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมกระดาษ อาหาร รีไซเคิล โลจิสติกส์ ผลิตส่วนประกอบอุตสาหกรรม และผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่เติบโตได้ดีไปกับภาคการส่งออก โดยสัญชาติผู้เช่าส่วนใหญ่ในทุกโครงการ ได้แก่ ไทย, ญี่ปุ่น, จีน และ สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ
"REIT ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่องแม้มีหลากหลายเหตุการณ์เข้ามากระทบ ยังให้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องในรูปแบบค่าเช่าเป็น Recurring Income ผู้เช่ามีกรอบระยะเวลาการเช่าชัดเจน ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจในการขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทยมากขึ้น Prospect REIT Management ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ จะยังคงจับตามองสถานการณ์เศรษฐกิจรอบด้าน พร้อมวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สิน รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว แผนงานสำคัญของปีนี้ คือการขยายมูลค่าสินทรัพย์รวมสู่ 10,000 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในรูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ภายใต้กองทรัสต์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพและส่งต่อผลตอบแทนที่ดีมั่นคงสม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหน่วย" นางสาวอรอนงค์ กล่าวเสริม
ที่มา: พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์